My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มาตุภูมิแห่งหัวใจ ตอนที่ 1 วันที่ 20 พ.ค.61

อ่านละคร My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มาตุภูมิแห่งหัวใจ ตอนที่ 1 วันที่ 20 พ.ค.61

จันทราเป็นครู...เธอมองปัญหาวัยรุ่นในสังคมด้วยสายตาความเป็นครูและเจ้าของสังคมว่า...

“การจัดการแก้ปัญหาเยียวยาสังคม ช่วยเหลือคน ไม่ใช่หน้าที่ของใครพวกไหนพวกเดียวไม่จำกัดว่าเป็นภารกิจของข้าราชการ ทหาร ตำรวจ สภาผู้แทน หรือรัฐบาลเท่านั้น แต่เป็นหน้าที่ของเราทุกคน ที่ต้องช่วยกันด้วยการทำหน้าที่เราให้ดีที่สุดทุกคน เริ่มด้วยการ...” กระทำที่เป็นจริงของครูจันทราเอง...

อิสร์ โอม และอาร์มเป็นนักเรียนในโรงเรียนที่ครูจันทราสอน วันนี้สามพี่น้องวิ่งไล่ล่าคู่อริอย่างเอาเป็นเอาตาย แผดเสียงร้องข่มขู่และวิ่งไล่ข้ามถนนโดยไม่กลัวรถที่ขวักไขว่ อิสร์วิ่งทันคู่อริก็ชกจนหมอบแล้วเตะไม่ยั้ง



“จำไว้ อย่ามาดูถูกโรงเรียนกู!!!” อิสร์เตะไปขู่ไป

คู่อริคนหนึ่งกระโดดถีบอิสร์จากด้านหลัง อาร์มตะโกน “มึงถีบพี่กู!!” แล้วพุ่งเข้าถีบคนนั้นกระเด็นพลางตะโกนบอกโอมว่ามันถีบพี่อิสร์

“มึงกล้าทำสามพี่น้องตระกูล อ. เหรอ” โอมตะคอกแล้วพุ่งเข้าถีบอีกคนจนคนนั้นกระเด็น แต่จู่ๆก็มีก้อนหินลอยมากระแทกหัวโอมแตกเลือดไหล อิสร์กับอาร์มเห็นคนเขวี้ยงก้อนหินก็ร้อง

“มึงทำพี่กู!!!” แล้วพุ่งเข้าใส่ทันที เห็นคนนั้นกระโดดขึ้นรถเมล์ก็โดดตาม

อาร์มสั่งคนขับให้จอด แต่คู่อริวิ่งไปท้ายรถแหวกผู้โดยสารที่แตกตื่นโดดรถหนีไปได้ สามพี่น้องวิ่งตามไปเจอพรรคพวกคู่อริมากกว่าดักรออยู่ อาร์มกับอิสร์ผงะแต่โอมยืนนิ่งหยิบปืนปากกาออกมาท้า

“เข้ามาดิ”

แต่แล้วจู่ๆครูจันทราก็ตะโกนขึ้น “อย่านะโอม!!!”

“พวกผมจะปกป้องศักดิ์ศรีของโรงเรียนและครอบครัวของผม” โอมบอก เห็นคู่อริกรูกันเข้ามาแย่งปืน โอมตะโกนให้ครูหลบไปก่อน ปืนปากกาหล่นเกิดการแย่งกัน คู่อริแย่งปืนไปได้และกำลังจะยิงอาร์มที่พุ่งเข้าไปหา ถูกอิสร์พุ่งเข้ายึดแขน

ทันใดปืนลั่นปัง! ครูจันทราถูกยิงที่ต้นแขนยืนโซเซ

“ครู!!!” สามพี่น้องตกใจร้องพร้อมกัน แต่พอดีตำรวจกรูกันเข้ามาระงับเหตุ คู่อริหนีกระเจิงตัวใครตัวมัน ส่วนโอม อาร์ม และอิสร์ ถลาเข้าไปดูครูจันทรา ร้องเรียกด้วยความเป็นห่วง...

“ครู...”

ooooooo

ที่ร้านขายหมูปิ้งหน้าตลาดสด...เตาปิ้งหมูควันโขมง กลิ่นหอมฉุย โขงในชุดมอซอหอบเสื่อพลาสติกยืนมองหมูปิ้งกลืนน้ำลายเอื๊อก...ถูกพ่อค้าหมูปิ้งไล่ไม่ให้มายืนบังหน้าร้าน

ขณะโขงกำลังจะไปก็ได้ยินเสียงใสๆของวัยรุ่นสาวสั่งหมูปิ้ง 10 ไม้ โขงหันมองเป็นสาวน้อยในชุดคอนแวนต์ ถือกระเป๋าแบรนด์เนม โขงมองกระเป๋าฉวยโอกาสที่เด็กสาวกำลังสนใจหมูปิ้งกระชากกระเป๋าวิ่งหนี เด็กสาวตะโกนให้ช่วยจับขโมย พลเมืองดีชายสองคนวิ่งตามโขงไป พอจับได้ก็รุมยำ โขงป้องกันตัวไปตะโกนไปว่า

“แน่จริงอย่ารุมสิเว้ย ตัวตัวสิวะ”

โขงถูกคนหนึ่งเอาเหล็กฟาดจนหัวคิ้วแตกเลือดออก ตำรวจกรูกันเข้ามาระงับเหตุพอดี ชายสองคนเผ่นแน่บ เหลือแต่โขงที่นอนกองกับพื้นอยู่ตรงนั้น

ที่สถานีตำรวจ...อิสร์ที่มีตำรวจคุมอยู่กำลังพูดโทรศัพท์หน้าเครียด อาร์มกับโอมถูกส่งตัวเข้าห้องขังแล้วทั้งสองเกาะซี่กรงห้องขัง อาร์มขอร้องตำรวจว่าเดี๋ยวปู่ย่าก็มาประกันตัวแล้วให้พวกตนอยู่ข้างนอกเถอะ โอมก็รับรองว่าพวกตนจะไม่ดื้อไม่หนีจะนั่งสมาธิเงียบๆนิ่งๆ

พอดีอิสร์พูดโทรศัพท์เสร็จเดินมาที่ห้องขัง โอมถามว่าปู่กับย่ากำลังมาใช่ไหม อิสร์บอกว่าปู่กับย่ากำลังไปไหว้พระแก้ชงที่เชียงใหม่อีกสามวันกลับ โอมกับอาร์มร้องเฮ้ย!! หน้าจ๋อย

“ไม่มีใครประกัน งั้นก็นอนห้องขังไป จะได้สำนึก” จ่าผลักอิสร์เข้าห้องขังอีกคน ล็อกกุญแจแล้วเดินไปโอม อาร์ม และอิสร์คร่ำครวญกันขรม

“เงียบๆได้ไหม” เสียงหนึ่งตวาดขึ้น สามพี่น้องมองไป เห็นโขงที่นอนหันหน้าเข้ากำแพง

อาร์มตะคอกกลับไปทันทีว่าอยากนอนสบายทำไมไม่ไปเปิดโรงแรมนอน ไอ้ขยะเปียก

“หมาตัวไหนพูด” โขงหันมองตาขวาง อาร์มบอกว่าตนพูดจะทำไม โขงลุกขึ้นพุ่งเข้ากระชากคออาร์มดันไปจนติดลูกกรง ตะคอก “กูขยะเปียกแล้วไง!!!”

เป็นเรื่องทันที โอมกับอิสร์พรวดเข้าดึงโขงออกตวาด “ปล่อยน้องกู!! ปล่อยน้องกู!!!”

พอดีตำรวจเข้ามาเอากระบองตีซี่กรงตะโกน “พอๆๆ” แต่ทุกคนกำลังเลือดขึ้นหน้ายังคงตะลุมบอนกัน

“โอม อาร์ม อิสร์” เสียงครูจันทราแทรกขึ้น สามพี่น้องหันมองต่างดีใจมาก ครูจันทราบอกกับตำรวจว่า “ดิฉันจะประกันตัวลูกศิษย์ดิฉันเองค่ะ”

สามพี่น้องร้องไชโยกันลั่น อาร์มหันไปเย้ยโขงว่า “เชิญมึงหลับให้สบายเลย พวกกูมีญาติมาประกันตัวแล้ว ฮ่าๆๆ”

ครูจันทรามองไปจำได้ ถาม “โขง...โขงใช่ไหม??”

โขงเห็นครูจันทราก็ชะงักหันหน้าหนีทันที

ครูจันทราชะโงกไป ตำรวจเตือนให้ระวังด้วย

“นั่น...นายโขง เด็กที่ฉันเป็นผู้ปกครองค่ะ เขาหนีออกจากบ้านไปเมื่อ 4 ปีก่อน นี่เขาถูกจับที่ไหน ไปทำอะไรมาคะ”

อิสร์งงถามว่ามันเคยอยู่กับครูหรือ มันเรียนโรงเรียนเราด้วยหรือ



“ไม่ได้เรียนที่โรงเรียน แต่อยู่กับครู...ที่บ้าน”

โขงค่อยๆหันมองครูจันทรา ร้องไห้น้ำตาอาบหน้า ...โอม อาร์ม และอิสร์ มองอึ้ง

ooooooo

ที่งานอีเวนต์หนึ่งในห้างดัง...

บนเวทีภากรนักเต้นชายกำลังโชว์ลีลาการเต้นบัลเล่ต์อยู่บนเวที ภากรในชุดบอดี้สูทรัดรูปโชว์สรีระกำลังเต้นอยู่กับนักเต้นชายอีกคน เสียงปรบมือกราวให้เกียรตินักแสดง

ที่ด้านหนึ่งของงาน พัสกรในเครื่องแบบนักเรียนเลิกเรียนแล้วเดินผ่านมาเจอโดยบังเอิญ เขาชะงักกึก! จ้องบนเวทีเขม็งด้วยแววตาเจ็บปวด อับอาย คับแค้น พัสกรตัดสินใจหันกลับ แต่อยู่ๆเพื่อนสามคนจากโรงเรียนเดียวกันก็เข้าประกบ จับให้พัสกรหันกลับไปบนเวที

เพื่อนคนหนึ่งถามว่า “ไอ้พัส ผู้ชายที่เต้นอยู่บนเวทีนั่นพ่อมึงนี่” อีกคนถามว่า “สรุปว่าพ่อมึงนี่...ใช่ใช่มะ” คนแรกพูดเยาะในทีว่า “มีพ่อสวย โคตรน่าภูมิใจอะ” เพื่อนหญิงถามทันทีว่า “แล้วพัสล่ะ เป็นรึเปล่า”

เพื่อนๆมองหน้าพัสกรแซวๆ รอคำตอบ พัสกรหงุดหงิด ไม่ตอบและเดินหนี เพื่อนคนแรกเดินมากอดคอ

“เฮ้ย อย่าเครียดดิ พวกกูแค่ล้อเล่นเฉยๆน่ะ”

พูดแล้วบีบก้นหมับ หัวเราะร่า “ลูกตุ๊ด ฮ่าๆๆ”

เพื่อนทั้งสามหัวเราะเฮฮา พัสกรฉุนขาดจ้ำหนีไปทันที

ที่หน้าห้างคอมมูนิตี้...ภากรเสร็จงานแล้วแม้จะเช็ดเครื่องสำอางบนหน้าออกแล้วแต่ยังมีร่องรอยการกรีดตาเหลืออยู่ เขาเดินถือถุงที่ซื้อของออกจากห้อง จะรีบข้ามถนนเพื่อไปขึ้นรถเมล์ฝั่งตรงข้าม จู่ๆพัสกรที่ดักอยู่ก็เดินออกมา ภากรดีใจถามว่าพัสมาทำอะไร พัสกรไม่ตอบ แต่กลับถามเสียงเครียดว่า

“ไหนพ่อบอกผมว่าจะไม่เต้นแล้ว”

ภากรชะงัก บอกว่าเขาหาคนเต้นไม่ได้เลยมาขอให้ช่วย และงานนี้เขาก็ให้เงินดีด้วย พัสกรย้ำว่าแต่พ่อรับปากตนแล้ว ภากรกล้ำกลืนชี้แจงอย่างใจเย็นว่า

“พัส พ่อเป็นนักเต้น ถ้าไม่ให้พ่อเต้นแล้วจะให้พ่อหาเงินจากไหน”

“จากไหนก็ได้ อาชีพอื่นที่ดีๆมีตั้งเยอะแยะ ทำไมต้องมาแต่งตัวชุดรัดแบบนั้นขึ้นเวที ท่าเต้นก็แต๋วแตก!! พ่อไม่อายบ้างเหรอ”

ภากรถามว่าทำไมต้องอาย มันเป็นศิลปะ แล้วอาชีพนักเต้นมันก็อาชีพสุจริต พัสกรเสียงแข็งว่า

“พ่อไม่อายแต่ผมอาย พ่อไม่เป็นผมพ่อไม่รู้หรอก ผมถูกเพื่อนล้อที่มีพ่อเป็นแบบนี้ พวกมันบอกว่าพ่อเป็นตุ๊ด มันล้อว่าผมเป็นลูกตุ๊ด”

“พ่อไม่ได้เป็นตุ๊ด พ่อทำอาชีพสุจริตที่ทำให้พ่อมีเงินให้พัสเรียน นี่เงินค่าเรียนพิเศษของพัส”

“ผมไม่เอา ไม่เอา!!” พัสกรจ้องหน้าพ่อแล้วเดินหนีไป

ภากรร้องเรียกแล้ววิ่งตามไปที่ถนนเพื่อจะข้ามตามไป แต่ไม่ทันระวังถูกรถเมล์พุ่งชนอย่างจัง ข้าวของในมือกระเด็นกระจาย พัสกรได้ยินเสียงหันกลับมาเห็น ช็อกสุดขีด ร้องสุดเสียง...

“พ่อ!!!”

หลังงานศพพ่อ พัสกรในชุดนักเรียนถือรูปหน้างานศพของพ่อเดินกลับบ้านเช่าอย่างเงื่องหงอยเศร้าสร้อย วางรูปพ่อลงคุกเข่าร้องไห้โฮ

ooooooo

อีกมิติหนึ่ง...ที่ถนนเส้นทางขึ้นเหนือ อคินอยากเป็นทหารอากาศ อยากเป็นนักบิน แต่ผิดหวังสอบเข้าเตรียมทหารไม่ติด โทษว่าตนโคตรห่วยโคตรกาก

ขณะขับรถเปิดประทุนมาตามเส้นทางขึ้นเหนือ เห็นเครื่องบินบินผ่านก็ยิ่งตอกย้ำความผิดหวัง ตะบึงรถไล่บี้คันหน้า เมื่อไม่ทันใจก็ตัดสินใจขับสวนเลนจะแซงขึ้นไป จู่ๆมีรถกระบะวิ่งสวนมา แต่อคินตัดสินใจไม่ถอย เร่งเครื่องจะแซง ขับเบียดจนรถคันที่ขับช้าตกใจหักหลบทำให้เสียหลักพุ่งเข้าข้างทางชนต้นไม้โครม!!!

อคินมองจากกระจกหลังเห็นรถมีควันพุ่งขึ้นทันที อคินลังเลว่าจะช่วยหรือไม่ช่วย สุดท้ายตัดสินใจเข้าเกียร์ขับหนีไปเพราะคิดว่า “เราไม่ได้ชน”

แต่ยิ่งขับไปก็ยิ่งรู้สึกผิด สุดท้ายทนไม่ได้กลับมายังที่เกิดเหตุ

ณ จุดเกิดเหตุ มีชาวบ้านและพลเมืองดีที่ขับรถผ่านมาจอดรถลงไปช่วยเหลือครอบครัวที่อยู่ในรถประสบเหตุ ในนี้มีครูจันทราอยู่ด้วย ครูจันทราโทร.เรียกรถพยาบาลและช่วยคนเจ็บ เห็นอคินยืนขาสั่นจนคุกเข่าลงเสียใจกับความผิดของตัวเอง ครูจันทรามองฉงน

ไปถึงโรงพยาบาล แม่ที่บาดเจ็บไม่ได้สนใจตัวเองแต่ร่ำร้องถามหาลูกและสามีด้วยความเป็นห่วง คุณยายของผู้ประสบเหตุโกรธมากถามหาคนทำให้ลูกหลานตนบาดเจ็บ จนอคินทนไม่ได้ยกมือไหว้สารภาพ

“ผม...ผมผิดเอง เพราะผมคนเดียว ผมขอโทษ ผมขับรถประมาทเอง”

ยายตบหน้าอคินด่าไอ้ชั่วและทุบตีจนครูจันทราต้องบอกให้พอแล้ว อคินร้องไห้ ได้แต่เอ่ย

“ผมขอโทษ ผมขอโทษ”

ooooooo

วันนี้ขณะครูกำลังทำงานอยู่ในห้องพักครู มีเด็กวิ่งหน้าตื่นเข้ามาบอกครูจันทราว่าเกิดเรื่องแล้ว พัสกร...พัสกร...

ครูจันทรากับเพื่อนครูสองคนขึ้นลิฟต์ไปแล้ววิ่งไปที่ดาดฟ้า เห็นพัสกรล็อกคอเพื่อนคนที่เยาะเย้ยว่าเขาเป็นตุ๊ด บังคับให้พูดตามว่า พ่อตนไม่ได้เป็นตุ๊ด เพื่อนกลัวพูดเสียงสั่นว่า “พ่อมึงไม่ได้เป็นตุ๊ด” พัสกรพูดอย่างผ่าเผยว่า

“กูไม่อายที่พ่อกูเต้นบัลเล่ต์ กูภูมิใจที่พ่อกูเต้นเก่ง แต่พวกมึง...พวกมึง...ทำให้พ่อกูตาย พวกมึงต้องตายๆๆๆ”

พัสกรเครียดจนล็อกคอเพื่อนแน่นขึ้น มือที่กำมีดก็สั่นเทิ้ม เพื่อนๆช่วยกันร้องตะโกนห้าม

ทันใดนั้นครูจันทราก็เดินเข้ามาเรียก “พัสกร... พัสกร...” พัสกรหันมอง ครูจันทราบอกว่า “พัสกร...นี่ครูนะ ครูจันทรา...พัสกรอย่าทำเพื่อนเลยนะ”

“พ่อผมไม่ใช่ตุ๊ด” พัสกรตะโกน

“คุณภากรพ่อเธอเป็นนักเต้นที่เก่งมาก ครูเคยดูท่านแสดงนะพัสกร ท่านเต้นเป็นพระเอกเรื่องโรมิโอจูเลียต ครูไปดูที่โรงละครแห่งชาติ ตอนนั้นคุณพ่อเธอเต้นให้บัลเล่ต์กรมศิลป์ พวกครูกรี๊ดกันมาก สาวๆรักคุณภากรกันทั้งนั้น ครูก็รัก”

“ครู...ครูรู้จักพ่อผมเหรอ”

“รู้สิ ใครก็รู้จัก คุณภากรเต้นเก่งมาก ยังเคยมาสอนพวกครูเต้นโมเดิร์นดานซ์เลย ตอนนั้นครูเรียนปี 1 เป็นน้องใหม่ ต้องขึ้นแสดงงานกีฬาฯประเพณี คุณภากรมาสอนพวกเราที่คณะฯเลย”

“พ่อผมเต้นเก่งมาก...ผมรักพ่อ ผมภูมิใจที่พ่อเต้นบัลเล่ต์เก่ง มีคนไทยไม่กี่คนที่ทำได้ใช่ไหมครับ”

“ใช่ คนไทยไม่กี่คน...ที่เต้นบัลเล่ต์เก่งขนาดนั้น มันเท่มาก”

พัสกรพึมพำตามครูจันทราว่า “ใช่ มันเท่มาก” ครูจันทราจึงขอมีดจากพัสกร ในที่สุดพัสกรส่งมีดให้ครูจันทราแล้วทรุดลงไปกอง เพื่อนๆรีบเข้าไปช่วยประคอง

“ทุกคนถอยไป ไปไกลๆอย่ามายุ่งกับพัสกร”

ครูจันทราบอกเด็กๆแล้วเข้าไปจับมือพัสกรอย่างอบอุ่น

ooooooo

หลายวันต่อมาที่บ้านครูจันทรา ป้านิดทำอาหารเสร็จ เรียกทุกคนมากินข้าว ย้ำเข้มว่า

“กินข้าวๆได้เวลาแล้ว โปรดมากินพร้อมกัน เก็บพร้อมกันอย่างมีระเบียบนะคะ”

“วันนี้ป้านิดทำหมูทอดกับผัดผักรวมอร่อยมั่กๆ ใครมาช้าหมูทอดหมดเหลือแต่ผักก็อย่ามาบ่นนะเว้ยยย”

อาร์มเรียกโขงที่นั่งอ่านแบบเรียนอยู่อย่างมีสมาธิ อิสร์ให้สัญญาณโอมกับอาร์มย่องเข้าไปเคาะจานเรียกข้างหู โขงบอกว่ารู้แล้ว เอาจานไล่เคาะหัวสามพี่น้องคืน

ขณะนั้นเองอคินเดินมานั่งที่โต๊ะอาหาร อิสร์แซวว่า คุณหนูอคินมาก่อนใครเลยนะ

“ช่วยไม่ได้ ฉันมันมาจากครอบครัวนักบินทั้งตระกูล ทุกอย่างต้องเป๊ะ ไม่เหมือนพวก...ลูกไม่มีพ่อแม่สั่งสอน”

โอมกับอาร์มถามว่าด่าพวกตนหรือ โขงรีบเข้าไปกันไว้บอกว่าด่าตนด้วยแต่ตนไม่ถือ ถามว่าแล้วนี่ไอ้พัสไปไหน อิสร์ชี้ให้ดู พัสกรใส่หูฟังกำลังพยายามแกะท่าเต้นอยู่อย่างจริงจัง โขงเดินเข้าไปดึงหูฟังออกบอกว่า

“กินข้าว”

พัสกร โขง และสามพี่น้องแซวกันแรงๆแต่ไม่มีใครโกรธ กลับไล่เตะกันอย่างสนุกสนาน อคินบ่นกับป้านิดว่า ตนเบื่อพวกไร้ระเบียบพวกนี้จริงๆ ป้านิดบอกว่าตนก็เอือมเหมือนกัน

สามพี่น้องวิ่งอยู่ดีๆก็เบรกเอี๊ยดเพราะเกือบชนเบนหรือเตชัส ที่ยืนเคี้ยวหมากฝรั่งยียวนน่าหมั่นไส้

อิสร์ถามว่ามาหาใคร เตชัสมองสภาพโดยรวมของที่นี่แล้วยิ้มเยาะหันกลับ ถูกครูจันทรามาขวางไว้ถามว่าจะไปไหน เตชัสชะงัก ครูจันทราจึงแนะนำเรียงตัวว่า

“คนนี้โอม อาร์ม อิสร์ สามคนนี้เป็นพี่น้องกัน นี่พัสกร โขงและอคิน ทุกคนอยู่ที่นี่กำลังจะเตรียมสอบเข้าตามสถาบันต่างๆ เรียนโรงเรียนเดียวกันบ้าง เรียนแบบนอกระบบบ้าง แต่ทุกคนช่วยเหลือกัน เป็นเพื่อนกัน” แนะนำฝ่ายโน้นแล้วครูจันทรานึกได้หันมาแนะนำ “อ้อ ทุกคน นี่เบน...เบน เตชัส แม่เขาฝากให้มาอยู่ที่นี่ด้วย”

“หา!!” ทุกคนร้องพร้อมกัน

“พวกเธอดีใจที่จะมีเพื่อนใหม่ล่ะสิ” ทุกคนส่ายหน้ารัว แต่ครูจันทราบอกเบนว่า “เห็นไหม ทุกคนเต็มใจให้เธออยู่หมดเลยนะเตชัส”

เตชัสทำหน้าเบื่อโลกไม่อยากอยู่ จากนั้นครูจันทราพาเบนเข้าไปดูรูป เป็นภาพสกู๊ปข่าวเกี่ยวกับหมอชัชวาล “หมอชัชวาล : จากเด็กติดเกม สู่ศัลยแพทย์ฝีมือดี เส้นทางชีวิตได้ดีเพราะมีครู” แต่มีภาพหมอชัชวาลคนเดียว

ครูจันทราบอกว่าเขาก็เคยถูกผู้ปกครองส่งมาอยู่ที่นี่เหมือนเธอนั่นแหละ และตอนนี้เขาก็ได้ทำในสิ่งที่เขาอยากทำแล้ว เบนถามว่าครูรับแก้สันดานคนเหรอ ครูจันทราบอกว่าเปล่า เขาเปลี่ยนแปลงตัวเอง เบนบอกว่าตนไม่อยากเปลี่ยนตัวเอง ครูจันทราบอกว่านี่คือปัญหาของตัวเธอ

“ผมไม่ใช่ตัวปัญหา พ่อผมต่างหากที่เป็น!” เบนเถียงเครียด

“ปกติเด็กที่ถูกส่งมาให้ครูดูแลถ้าไม่ใช่เด็กกำพร้าก็เป็นเด็กที่พ่อแม่ไม่สามารถดูแลได้ หรือไม่ก็เป็นเด็กที่พ่อแม่จนปัญญาที่จะรับมือแล้ว แต่เธอเป็นเด็กที่พ่อแม่มีปัญหา อืม...แปลกดี แล้วปัญหาของพ่อแม่เธอที่ทำให้เธอถูกส่งมาอยู่นี่คืออะไรล่ะ เล่าให้ครูฟังหน่อยได้ไหม”

ครูจันทราเปิดใจ สีหน้าเปี่ยมด้วยเมตตา พร้อมรับฟังเต็มที่ เบนคิดเครียด...

ooooooo

อ่านละคร My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มาตุภูมิแห่งหัวใจ ตอนที่ 1 วันที่ 20 พ.ค.61

ละครเรื่อง My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มาตุภูมิแห่งหัวใจ ผลิตโดยบริษัท ชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
ละครเรื่อง My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มาตุภูมิแห่งหัวใจ บทประพันธ์โดย มณีจันทร์
ละครเรื่อง My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มาตุภูมิแห่งหัวใจ บทโทรทัศน์โดย ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส
ละครเรื่อง My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มาตุภูมิแห่งหัวใจ กำกับการแสดงโดย ตระกูล อรุณสวัสดิ์
ละครเรื่อง My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มาตุภูมิแห่งหัวใจ ออกอากาศทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ