อ่านละคร ลิขิตรัก The Crown Princess ตอนที่ 7 วันที่ 24 พ.ค.61

อ่านละคร ลิขิตรัก The Crown Princess ตอนที่ 7 วันที่ 24 พ.ค.61

อลิซไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนแต่มั่นใจว่าต้องเป็นจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือของประเทศไทย ดวินมองมาด้วยแววตาอ่อนแสงก่อนยิ้มร่าเมื่อมีเด็กสาวชาวบ้านคนหนึ่งวิ่งมาทักทาย

มัดหมี่ เด็กสาวชาวบ้านที่คุ้นเคยกับดวินตั้งแต่เด็กนั่นเอง มัดหมี่ไม่ได้อ่อนต่อโลกจนไม่รู้ว่าเขาทำงานอะไรและการกลับมาครั้งนี้ของเขาพร้อมหญิงสาวสวยท่าทางหยิ่งๆซึ่งเขาแนะนำว่าเป็นวีไอพีก็ทำให้เธอเดาได้เลาๆว่าเป็นบุคคล สำคัญ

อลิซเห็นท่าทางสนิทสนมระหว่างดวินกับมัดหมี่แล้วหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก เมื่อเด็กสาวผละไปจึงเอาเรื่องทันที



“ไหนนายบอกว่าเขาไม่รู้ว่าเราเป็นใครไง แล้วนายไปแนะนำว่าเราเป็นวีไอพีทำไม ทำไมไม่บอกว่าเป็นภรรยาเหมือนตอนอยู่ในค่ายทหาร”

“ก็ผมกับมัดหมี่สนิทกันมาก”

“ไม่บอกก็รู้”

ท่าทางงอนๆของเธอทำให้ดวินงงแต่ยังอธิบายตามตรง “ถ้าบอกว่าเป็นภรรยาผมเขาไม่เชื่อแน่ ผมก็เลยต้องบอกความจริงแค่ครึ่งเดียว...หมี่รู้ว่าคุณเป็นวีไอพีแต่ไม่รู้ว่าเป็นเจ้าหญิง”

อลิซคร้านจะเถียงเดินเข้าบ้านพักเซ็งๆ รำพึงกับตัวเองเบาๆ “จากเจ้าหญิงอลิซเป็นนารี...มาเป็นกบฏ...มาเป็นชาวเขา ฉันจะต้องเป็นคนอื่นอีกนานแค่ไหน...หรือฉันจะกลับไปเป็นตัวเองไม่ได้ตลอดชีวิต”

ooooooo

แผนซ่อนตัวของอลิซเป็นภารกิจลับเฉพาะกิจ มีแค่สมาชิกดีทีมและศักดิ์ชายที่รู้เพื่อความปลอดภัยของอลิซ แม้เคธจะกดดันเท่าไหร่ ทุกคนในปฏิบัติการนี้ก็ไม่ปริปาก

เคธโกรธมากแต่ไม่คิดวางมือ วิลจึงฉวยโอกาสนี้ขยับความสัมพันธ์กับเคธเพราะเชื่อว่าจะใช้ประโยชน์จากเธอได้ในอนาคต เจซีเป็นอีกคนที่รู้เรื่องภารกิจซ่อนตัวของอลิซ แต่จำต้องตีมึนทำไม่รู้เรื่องกลับฮรีสอซสืบเรื่องเภตรากับคิงเฮนรี่ที่ถูกกันออกจากเรื่องในราชสำนักทั้งหมด

เภตรารู้เรื่องภารกิจซ่อนตัวของอลิซจากเจซี เป็นห่วงเจ้านายสาวมากแต่ขยับไปไหนไม่ได้เพราะถูกคุมตัวจากเหตุที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ได้แต่ส่งเจซีไปอารักขาคิงเฮนรี่และเฝ้าดูพระอาการอย่างใกล้ชิดเผื่อมีผู้ไม่หวังดี

อลิซต้องเก็บตัวเงียบไม่ติดต่อใครที่ฮรีสอซ แต่กระนั้นความกังวลเรื่องปู่กับองครักษ์คนสนิทก็ทำให้กินไม่ได้นอนไม่หลับและเครียดจนทุกคนในหมู่บ้านสัมผัสได้ ดวินพยายามหาเรื่องให้ทำ ทั้งส่องนก สอนวิชาปามีดแต่ราชนิกุลสาวก็ปฏิเสธเพราะไม่มีแก่ใจทำอะไร

“เราขอบใจมากที่นายทำทุกอย่างเพื่อให้เรารู้สึกดีขึ้น แต่พอเถอะ...มันไม่มีประโยชน์ ตอนนี้มีเรื่องมากมายในหัวสมองเรา...เราไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น”

“แล้วจะปล่อยให้สมองเก็บเรื่องพวกนั้นไว้ทำไม ผมว่าคุณต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยมันไปบ้าง”

“เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา สิ่งที่เกิดทั้งหมดมันเกิดจากเรา...จะให้เราไม่สนใจปล่อยไป...เราทำไม่ได้”

ท่าทางซังกะตายของอลิซทำให้ดวินกลุ้มใจ มัดหมี่เห็นท่าทางเขาแล้วอดแปลกใจไม่ได้

“หมี่รู้ว่ามันเป็นความลับ แต่ถามหน่อยสิ...นารีเป็นใคร สำคัญขนาดไหน”

“สำคัญมาก...พี่ตอบได้แค่นั้น”

“โห...ตอบแบบนี้ไม่ตอบเลยดีกว่า แค่ดูก็รู้อยู่แล้วว่านารีต้องสำคัญมากและไม่ใช่แค่กับงาน แต่กับพี่วินด้วย”

“หมายความว่าไง”

“ก็ถ้าไม่สำคัญแบบส่วนตัวมากๆคงไม่ห่วงขนาดนี้...ปกติถ้าดูแลตามหน้าที่พี่วินก็ไม่เก็บมาเครียดแต่แยกแยะได้ว่าทำงาน แต่นี่ดูเหมือนเป็นคนสำคัญแบบส่วนตัวมากๆ”

“นี่ไม่ต้องมาทำเป็นเดา เอาเวลาเดามาช่วยพี่คิดดีกว่าว่าจะทำยังไงให้นารีรู้สึกดีขึ้นได้บ้าง”

“หมี่คิดว่าวิธีนี้น่าจะดี...”

วิธีของมัดหมี่คือจัดพิธีบายศรีสู่ขวัญต้อนรับนารีหรืออลิซสู่หมู่บ้าน ราชนิกุลสาวถูกพาตัวไปลานกิจกรรมเวลาต่อมาโดยมีดวินตามประกบและอธิบายเกี่ยวกับพิธี

“นี่คือพิธีบายศรีสู่ขวัญ...ทำเพื่อต้อนรับคนเข้าหมู่บ้านเพราะเขาถือว่าใครเข้ามาอยู่ที่นี่ก็เหมือนได้เกิดใหม่ ได้มาเป็นคนบ้านเดียวกัน...เป็นครอบครัวเดียวกัน”

แสง พ่อของมัดหมี่ ผู้นำของหมู่บ้านผูกข้อมือนารีเป็นคนแรก ตามด้วยยายเฒ่าผู้อาวุโสประจำหมู่บ้าน

“ยินดีต้อนรับนะลูก มาอยู่นี่ก็คิดซะว่าย้ายมาอยู่บ้านใหม่...ขอให้ลูกเจอสิ่งดีๆ อะไรเก่าๆที่ทำให้ไม่เดินไปข้างหน้าก็ทิ้งมันไปซะ ถ้าปล่อยวางทิ้งความทุกข์ไปได้ ความสุขมันจะเข้ามาหาเราเอง”

คำอวยพรจากพวกชาวบ้านทำให้อลิซตื้นตันใจ พอบรรเทาความตึงเครียดจากสถานการณ์ก่อนหน้าได้ไม่น้อย ดวินเห็นดังนั้นจึงอยากให้กำลังใจ ชวนเธอดูดาว

“ดาวสวยไหม”

อลิซพยักหน้า ดวินจึงถือโอกาสพูดสิ่งที่อยู่ในใจ “ถ้าท้องฟ้าไม่มืดคุณจะไม่เห็นดาวสวยๆแบบนี้เหมือนกัน ...ถ้าชีวิตไม่เจอปัญหาที่รุนแรงคุณก็อาจจะไม่รู้ว่าชีวิตสวยงามแค่ไหน...ผมรู้ว่าสิ่งที่คุณเจอมันหนัก มันสลัดออกจากหัวไม่ง่ายแต่ผมเชื่อว่าคุณทำได้ คุณเป็นคนเข้มแข็ง คุณสู้กับสิ่งที่อยู่ในหัวคุณได้สบายมาก”

คำปลอบของดวินช่วยได้มาก อลิซอุ่นวาบในหัวใจอย่างประหลาด ถ้าไม่ต้องกลับไปเจอเรื่องวุ่นวายที่ฮรีสอซ เก็บตัวในหมู่บ้านแสนสงบแต่เต็มไปด้วยความจริงใจแบบนี้ตลอดไปได้ก็คงดี...

ooooooo

กำลังใจจากดวินและการต้อนรับอย่างอบอุ่นของพวกชาวบ้านทำให้อลิซสดใสอีกครั้ง ยอมลดท่าทีแข็งขืนและเปิดใจคุยกับคนอื่นมากขึ้น รวมไปถึงฝึกปามีดกับดวินที่เธอโปรดปรานมากในระยะหลัง ดวินดีใจที่อลิซกลับเป็นคนเดิม แม้ยังรักษาท่าทีในบางครั้งแต่ไม่เย็นชาเหมือนเจ้าหญิงน้ำแข็งอย่างเมื่อก่อน

เคธไม่ยอมแพ้เรื่องตามหาอลิซแต่ระหว่างนั้นก็อยากเอาชนะใจวิล ไม่ได้รักใคร่เหมือนเก่าแต่อยากร้อยไว้ใช้เป็นเครื่องมือล้างแค้นในอนาคต ราชนิกุลสาวที่ถูกลืมแห่งฮรีสอซแสร้งทำเป็นสนใจวิลมากกว่าเก่าและอลันก็เป็นคนแรกที่ตกหลุมพรางเมื่อเห็นว่าพี่สาวคนละแม่ชอบแอบดูวิลอย่างหลงใหล

“ชอบพี่วิลขนาดนี้เลยเหรอ”

“พูดอะไรของเธอ”

“ก็...พูดความจริง ดูตาพี่ตอนดูคลิปพี่วิลให้สัมภาษณ์ก็รู้แล้ว”

“พูดมาก...คิดไปเอง”

“แทบไม่ต้องใช้สมองคิด แค่มองตาก็รู้ความคิดพี่หมดแล้ว แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดนะ อยากรักชอบใครก็เป็นสิทธิเสรีภาพ ผมแค่อยากเตือนพี่เคธว่าพี่วิลเขาชอบพี่อลิซ ใครๆเขาก็รู้...เผื่อใจไว้บ้าง...ที่พูดเนี่ยเพราะผมเป็นห่วงนะ”

“ไม่ต้องห่วงพี่หรอก ห่วงตัวเองเถอะ...เมื่อไหร่จะกลับฮรีสอซ”

“แล้วพี่ล่ะ...เมื่อไหร่จะกลับ”

“ก็จนกว่าจะไม่มีเรื่องปวดหัวมั้ง พี่จะอยู่ตามหาอลิซให้เจอ ไม่งั้นพี่ไม่กลับ”

“ถ้าพี่อลิซกลับมาจริงๆพี่จะดีใจเหรอ เพราะถ้าพี่อลิซกลับมา พี่วิลต้องกลับไปหาพี่อลิซแน่ๆ ที่บอกว่าอยู่ตามหาพี่อลิซ...เหตุผลนี้จริงๆหรือหลอกตัวเอง”

คำถามของน้องชายคนละแม่ทำให้เคธอึ้งไปอึดใจ ไม่ได้เสียใจแต่จำต้องตีหน้าเศร้าเพื่อตบตา อลันเห็นดังนั้นก็เชื่อสนิทว่าพี่สาวมีใจให้วิล ทิ้งท้ายเสียงอ่อน

“ผมแค่อยากให้พี่ยอมรับความจริง...”

ส่วนวิลไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นเหยื่อ หว่านเสน่ห์ใส่เคธไม่ยั้งเพราะมั่นใจว่าเธอมีใจ

“พี่กังวลว่าถ้าวันหนึ่งอลิซกลับมาเราสองคนจะไม่เหมือนเดิม”

เคธแกล้งทำอึ้ง วิลไม่คิดว่าเธอเสแสร้งรีบสารภาพความในใจ

“เคธรู้ตัวหรือเปล่า...เมื่อก่อนเราไม่สนิทกันเท่าตอนนี้ เคธเป็นคนมีโลกส่วนตัวที่พี่ไม่มีวันเข้าถึง ยิ่งเวลาอลิซอยู่ด้วยเคธแทบไม่พูดอะไรเลย แต่พอไม่มีอลิซ เคธยอมให้พี่ได้เข้ามาในชีวิตมากขึ้น เราได้พูดคุยกันแทบทุกเรื่อง พี่ได้เป็นที่ปรึกษา เป็นคนที่เคธไว้ใจ มันทำให้พี่มีความสุขที่สุด”

“เคธก็มีความสุขค่ะ”

“มีความสุขแล้วทำไมต้องทำหน้าเศร้าแบบนี้”

“เพราะความสุขที่มีมันไม่ใช่ความสุขแท้จริง มันแค่ความสุขคั่นเวลา พออลิซกลับมาทุกอย่างก็เป็นแบบเดิม”

วิลส่ายหน้า ยิ้มอ่อน “ไม่จริง...มันไม่มีวันเหมือนเดิมเพราะอลิซกลับมาครั้งนี้ไม่ได้กลับมาในฐานะเจ้าหญิงองค์รัชทายาท พี่ไม่จำเป็นต้องทำตามคำสั่งของท่านพ่ออีกต่อไป”

เคธใจเต้นแสร้งทำเป็นแปลกใจ วิลเชื่อว่าแผนของตนได้ผล เขาลวงเธอด้วยคำหวานว่าไม่ได้รักอลิซแต่ต้องทำเพราะถูกพ่อแม่บังคับ ผู้หญิงที่เขารักตั้งแต่แรกเห็นคือเธอต่างหาก

“รักทั้งๆที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ รักทั้งๆที่ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะรักตอบหรือเปล่า”

“เคธรักพี่วิลค่ะ...เคธรักพี่วิล...รักมาตลอด”

ระหว่างที่วิลกับเคธลุ่มหลงในเสน่ห์ปลอมๆของกันและกัน ดวินกับอลิซก็พัฒนาความสัมพันธ์ ความทุกข์ยากและสถานการณ์ความเป็นความตายที่ผ่านมาทำให้ทั้งสองเข้าใจกันมากขึ้น รวมถึงสัมผัสตัวตนแท้จริงของแต่ละฝ่ายมากกว่าเมื่อก่อน โดยเฉพาะอลิซที่เรียนรู้หลายอย่างจากการปลอมตัวเป็นชาวบ้านธรรมดา

นอกจากบทเรียนซักผ้าและการใช้ชีวิตเหมือนพวกชาวบ้าน อลิซยังได้รู้ว่าจิตวิญญาณของชาวไทยอยู่ที่พระมหากษัตริย์อันเป็นที่รัก เห็นได้จากฝายในหมู่บ้านที่ชาวบ้านช่วยกันบำรุงรักษาไม่ให้เสียหายไปกับภัยธรรมชาติ เมื่อดวินกลับจากช่วยพวกชาวบ้านซ่อมฝายก็อดไม่ได้จะเล่าเรื่องที่อ่านเจอในหนังสือเกี่ยวกับในหลวง

อ่านละคร ลิขิตรัก The Crown Princess ตอนที่ 7 วันที่ 24 พ.ค.61

ละครเรื่อง ลิขิตรัก บทประพันธ์โดย นิดา
ละครเรื่อง ลิขิตรัก บทโทรทัศน์โดย ณัฐิยา ศิรกรวิไล และกัลยาณมิตร
ละครเรื่อง ลิขิตรัก กำกับการแสดงโดย อำไพพร จิตต์ไม่งง
ละครเรื่อง ลิขิตรัก ผลิตโดย บริษัท ทอง เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง ลิขิตรัก ควบคุมการผลิตโดย แอน ทองประสม
ละครเรื่อง ลิขิตรัก ติดตามชมได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ