อ่านละคร เสน่ห์รักนางซิน ตอนที่ 11 วันที่ 15 พ.ค.61

อ่านละคร เสน่ห์รักนางซิน ตอนที่ 11 วันที่ 15 พ.ค.61

ภูรีเห็นด้วยกับภควัต แต่คงต้องรอให้พงศกรฟื้นก่อน ค่อยว่ากันอีกทีว่าจะเอาอย่างไร มีสายเข้ามาที่มือถือของบุสกร ทางมูลนิธิโทร.มาบอกว่ามีอุบัติเหตุ เธอขอตัวไปจัดการเรื่องนี้ก่อน ภควัตขอร้องจะไปช่วยคนอื่นช่วยดูสภาพตัวเองก่อนได้ไหม บุสกรโวยว่าเธอไม่ใช่เขาโดนอะไรกระทบใจหน่อยก็ง่อยกินทำอะไรไม่ได้ ผลักเขาพ้นทางแล้วเดินออกไป ภควัตเป็นห่วงอาสาจะไปเป็นเพื่อนแล้วลากแขนเธอไปขึ้นรถ...

ทั้งที่บุสกรถูกฤทธิ์ยาเสพติดเล่นงาน แต่ก็กัดฟันเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ ภควัตเห็นความตั้งใจของเธอแล้วรู้สึกละอายใจตัวเองอย่างบอกไม่ถูก ในที่สุดคนเจ็บคนสุดท้ายถูกลำเลียงขึ้นรถของหน่วยกู้ภัย บุสกรปฏิบัติภารกิจเสร็จเดินกลับมาหาภควัตที่ยืนรออยู่ จู่ๆเธอหน้ามืดทรุดฮวบ เขาพุ่งมารับเธอไว้ทัน



“ผมพร้อมแล้ว ต่อไปนี้ผม คุณและทีมงานของคุณ เราจะช่วยกันทำงานจะงานเล็กหรืองานใหญ่ผมจะไม่เกี่ยง เพราะหน้าที่ของผมคือทำงาน” ภควัตก้มมองบุสกรที่คอพับหมดสติอยู่ในอ้อมกอดอย่างรู้สึกดี

ooooooo

พริมเห็นพงศกรลงมาข้างล่างก็รีบยกข้าวต้มมาให้ เขาเห็นเธอเป็นห่วงเป็นใย แถมเมื่อคืนยังช่วยชีวิตเขาเอาไว้ก็มองด้วยความรู้สึกที่ดีขึ้น แต่พอเธออ้าปากสั่งสอนเขาเรื่องการใช้ชีวิต พงศกรทนไม่ได้เดินหนีออกจากบ้าน พริมตามมาห้ามไม่ให้เขาไปไหนทั้งนั้น ขืนกลับไปเดี๋ยวก็ใจร้อนวู่วามเอาปืนไปคิดฆ่าใครอีก

“นายต้องอยู่ที่นี่กับฉันจนกว่านายจะได้สติคิดว่าไม่ควรทำเรื่องบ้าๆแบบเมื่อคืนอีก”

“คิดว่าเป็นลูกของพ่ออีกคนแล้วจะมาสั่งผมได้เหรอ”

“ฉันสั่งนายในฐานะผู้มีพระคุณ อย่าลืมสิว่าเมื่อคืนฉันไปช่วยนาย”

ภูรีกับวีรีเข้ามาเห็นทั้งคู่โต้เถียงกัน ถามว่าเกิดอะไรขึ้น พริมฟ้องว่าเด็กดื้อจะหนีกลับ เตือนอะไรก็ไม่ฟัง แล้วนี่เป็นอย่างไร มาอย่างไรถึงได้มาที่นี่พร้อมกันได้ วีรีอยากมาเยี่ยมพงศกรก็เลยขอให้ภูรีไปรับ พริมชวนทั้งคู่ขึ้นบ้านก่อน ภูรีหันไปกล่อมพงศกรให้อยู่ที่นี่ต่อไป จนกว่าตำรวจจะจับแจ๊คกับพวกให้ได้เสียก่อน ไม่อย่างนั้นเขาอาจเดือดร้อนได้ พงศกรคิดคล้อยตามคำพูดของภูรีตัดสินใจอยู่ที่นี่ต่อไป...

การได้พูดคุยกับพงศกรแม้จะเป็นเวลาสั้นๆทำให้พริมรู้ว่าเด็กที่ถูกตามใจอย่างเขาไม่ชอบให้ใครมาสอน เวลาที่เธอสอนเขาจะโกรธ ดังนั้นเธอจะไม่สอนอะไรเขาอีกแต่จะสั่ง ภูรีอยากรู้ว่าจะสั่งให้เขาทำอะไร

“ทำตัวให้เป็นประโยชน์ไม่ใช่หายใจทิ้งไปวันๆ” จากนั้นพริมเริ่มด้วยการสั่งให้พงศกรทำสิ่งง่ายๆก่อนคือให้กวาดบ้านถูบ้าน ทีแรกเขาไม่ยอมทำ เธอจึงใช้ทั้งเล่ห์ใช้ทั้งกลหลอกล่อที่สุดเขาก็ทำตามที่เธอสั่งจนได้...

ในเวลาไล่เลี่ยกัน บุสกรกำลังหลับอย่างมีความสุข มีเสียงมือถือของเธอดังขึ้น เธอหลับหูหลับตาควานหาจากกระเป๋าสะพายที่วางอยู่ขึ้นมารับสาย ปริตาโทร.มาถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง ทำไมเสียงเธอฟังดูแปลกๆ

“คงเป็นเพราะฉันนอนฝันดี ฝันว่าได้นอนกอดนายวัดวา แกอย่าไปบอกใครนะ ฉันเขิน”

ภควัตพลิกตัวมากอดบุสกรไว้ เธอตกใจหันไปเห็นเขานอนหลับอยู่ข้างๆถึงกับร้องลั่น ลุกพรวดขึ้นนั่ง ภควัตตกใจเสียงร้องของเธอ ผุดลุกขึ้นนั่งเช่นกัน เธอเห็นตัวเองใส่เสื้อยืดตัวโคร่งของเขายิ่งตกใจตบเขาผัวะ ด่าซ้ำว่าไอ้ทุเรศ แล้วคว้ากระเป๋าสะพายลุกจากเตียง ภควัตรีบวิ่งตาม

ครู่ต่อมาบุสกรในชุดเดิมเมื่อวานเปิดประตูห้องน้ำออกมาด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ ภควัตมาดักหน้าไว้พยายามอธิบายว่าตัวเองไม่ได้แตะต้องอะไรเธอแม้แต่น้อย แม่บ้านคอนโดฯเป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอ เขาแค่หวังดีอยากให้เธอนอนสบายๆ แล้วบอกเธอว่าเขาพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างที่เธอแนะนำ

“บอกให้ชื่นใจทีสิว่าคุณคิดจะเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยอะไร”

ภควัตชี้ไปที่กล่องหลายใบซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ ในกล่องเหล่านั้นมีเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า นาฬิกาแบรนด์เนมของเขา ถ้าขายก็จะได้เงินก้อนใหญ่ จะได้เอาไปให้พ่อแม่ ถึงจะช่วยอะไรมากไม่ได้แต่อย่างน้อยก็ทำให้ท่านเห็นว่าเขาพร้อมจะทำหน้าที่ลูกที่ดี และจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งมาเป็นทุนทำธุรกิจของตัวเอง แต่เขาคงต้องรบกวนเธอให้ช่วยเอาของพวกนั้นไปขายให้ เพราะเขาไม่กล้าเอาไปขายเอง...

เพื่อให้การเอาของไปขายครั้งนี้น่าเชื่อถือ ภควัตจึงต้องแปลงโฉมบุสกรเสียใหม่ ไม่อย่างนั้นเจ้าของร้านรับซื้อของแบรนด์เนมมือสองต้องคิดว่าเธอขโมยของมาแน่นอน แม้เธอจะแปลงโฉมใหม่ไฉไลกว่าเดิม แต่ก็ไม่ได้ทำให้เจ้าของร้านเชื่อถือในตัวเธอเพราะเขาถามอะไรเกี่ยวกับนาฬิกาหรูแพงระยับของภควัต เธอตอบไม่ได้สักอย่างต้องโทร.ไปถามภควัตซึ่งรออยู่อีกมุมหนึ่งของห้างฯ

เจ้าของร้านมั่นใจว่าบุสกรต้องขโมยของเหล่านี้มา จึงปฏิเสธไม่รับซื้ออ้างราคาสูงไป เธอจำต้องขนข้าวของออกจากร้านอย่างผิดหวัง เจ้าของร้านรอเธอคล้อยหลังเล็กน้อย รีบโทร.แจ้ง รปภ.ของห้างฯ ภควัตที่ยืนรอบุสกรตรงจุดนัดหมายดันเจอแอนนากิ๊กเก่า เขาอายที่จะให้ใครรู้ว่าตัวเองตกต่ำ รีบวิ่งหนี เธอจำเขาได้ไล่ตาม

ooooooo

บุสกรถือถุงใส่ของแบรนด์เนมมาหาภควัตที่จุดนัดพบแต่เขาหายไป เธอยังไม่ทันจะโทร.หาเขา รปภ.สองคนเข้ามาประกบซ้ายขวาหาว่าเธอขโมยของของคนอื่นมาขาย บุสกรปฏิเสธว่าไม่ได้ขโมย ของเหล่านี้เป็นของของเพื่อนเธอเอง พยายามกวาดตามองหาภควัตไม่เห็นแม้เงา รปภ.ไม่สนใจเข้ามาจับตัว เธอสะบัดหนี

“นี่อย่ามาจับตัวฉันนะ ฉันไม่ได้เป็นขโมย”

ป่วยการจะแก้ตัว เพราะไม่มีหลักฐานมายืนยัน บุสกรถูกนำตัวไปส่งตำรวจ...

ด้านภควัตหนีรอดจากแอนนามาได้ เดินกลับมายังจุดนัดพบแต่ไม่เห็นบุสกร หยิบมือถือขึ้นมาโทร.หา แบตฯเจ้ากรรมดันหมด...

หลังได้รับสายจากบุสกร พริมรีบร้อนออกจากบ้าน วิ่งผ่านหน้าพงศกรที่กำลังยืนรดน้ำต้นไม้ ก็ร้องบอก

“อยู่บ้านนะ ฉันมีธุระด่วน ของในตู้เย็นตู้กับข้าวกินได้ทุกอย่าง อ้อ ทนร้อนหน่อยนะ พัดลมเสีย ไปล่ะจะรีบกลับ” พริมว่าแล้ววิ่งปรู๊ดออกไป...

ภควัตรู้เรื่องบุสกรจากเจ้าของร้านรับซื้อของแบรนด์เนมก็รีบตามมาที่โรงพัก เจอพริมวิ่งมาจากอีกทางหนึ่ง เธอเล่าให้ฟังว่าบุสกรโทร.ตามเธอมาเพราะติดต่อเขาไม่ได้ เขาอ้างว่าเกิดเหตุขัดข้องเล็กน้อย พอรู้ว่าบุสกรถูกพาตัวมาโรงพักก็ตามมาทันที นักข่าวลงบันไดโรงพักสวนกับภควัตที่เดินขึ้นไปกับพริมก็จำเขาได้ว่าเป็นเจ้าของโรงแรมมุกทะเล รีบตามไปดูเผื่อจะมีข่าวเด็ด...

บุสกรเล่นงานภควัตยกใหญ่ที่หายหน้าไป ปล่อยให้เธอถูกจับ เขาอ้างมีธุระกะทันหัน เธออยากรู้ว่าธุระอะไรถึงต้องทิ้งกันแบบนั้น เขาอึกอักไม่รู้จะตอบอย่างไร เธอดึงหูเขาอย่างแรงถึงกับร้องลั่น สารภาพสิ้นไส้ว่าเจอกิ๊กเก่า กลัวจะรู้ว่าเขาตกอับก็เลยต้องไปแอบ บุสกรผลักเขาออกห่าง มองด้วยสายตาผิดหวัง พริมขอร้องให้บุสกรใจเย็นๆก่อน เคลียร์เรื่องนี้กับตำรวจให้จบก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน

“ให้เขาจัดการไป ฉันไม่อยากยุ่งอะไรอีกแล้ว” พูดจบบุสกรเดินออกไป ภควัตหยิบบัตรประชาชนออกมาให้ร้อยเวร แสดงตัวว่าเป็นลูกเจ้าของโรงแรมมุกทะเล และเป็นเจ้าของนาฬิกาเจ้าปัญหา เขาเป็นคนสั่งให้บุสกรเอาของไปขายเอง แล้วฝากพริมจัดการต่อ ก่อนจะวิ่งปรู๊ดตามบุสกรจนทันกันหน้าร้านขายดอกไม้ พยายามขอโทษเธอ แต่เธอไม่สนใจสั่งให้เขาไปให้พ้นหน้า นักข่าวที่ตามมามองเขาอย่างสนใจ

ภควัตหันไปเห็นดอกกุหลาบแดงที่จัดเป็นกำๆแช่อยู่ในถังคว้ามาหนึ่งกำ ล้วงเอาเงินค่าดอกไม้วางให้แม่ค้า รีบวิ่งไปดักหน้าบุสกรแล้วคุกเข่าชูดอกไม้ให้ ขอโทษที่ทิ้งเธอ อย่าโกรธเขาเลย พริมตามออกมาเห็นภควัตคุกเข่าตรงหน้าบุสกรถึงกับตะลึง เขายังคงอ้อนวอนให้บุสกรยกโทษให้

“พอได้แล้ว ฉันจะให้โอกาสนายอีกครั้งก็ได้ แต่ถ้ามีอีกล่ะก็ คอยดู”

“ครับผม คุณบุสน่ารักที่สุดเลย” ภควัตอุ้มบุสกรหมุนไปรอบๆด้วยความดีใจ

ooooooo

ภูรีโทร.เล่าให้อินทัชฟังถึงเหตุการณ์ที่ภควัตคุกเข่าขอโทษบุสกรพร้อมดอกไม้ในมือ อินทัชไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงเพราะภควัตเคยประกาศไว้ว่าจะไม่มีวันคุกเข่าให้ผู้หญิงคนไหน ไม่น่าเชื่อว่าบุสกรคือผู้หญิงที่สยบเขาได้ ภูรีเห็นด้วย อย่างภควัตต้องเจอผู้หญิงอย่างบุสกรถึงจะเป็นมวยถูกคู่

จังหวะนั้นเลขาฯเดินนำวิกกี้เข้ามา ภูรีจึงขอวางสายก่อน แล้วทักทายวิกกี้ทำไมถึงมาเร็วนัก ยังไม่ถึงเวลานัดกับมิสเตอร์พีไม่ใช่หรือ เธอต้องมาก่อนเวลาก็เพราะจะมาถามเขาว่ารู้หรือเปล่าว่าท่านเรียกเธอมาพบด้วยเรื่องอะไร ใช่เรื่องทำงานกับ P.PAUL หรือเปล่า เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เลขาฯเปิดประตูเข้ามาอีกครั้ง

“มิสเตอร์พีเชิญคุณวิกกี้เข้าพบค่ะ”...

เป็นอย่างที่วิกกี้คาดไว้ไม่มีผิด มิสเตอร์พีสนใจผลงานที่เธอเอามาให้ดูวันก่อน อยากได้เธอไปร่วมงานด้วย แล้วถามว่าเธอตัดรองเท้าเป็นไหม เธอรับคำเคยตัดรองเท้าใส่เองด้วยซ้ำ ท่านอยากรู้ว่าทำเองทุกขั้นตอนหรือเปล่า เพราะเวลาที่ท่านจะรับใครมาเป็นดีไซเนอร์ ท่านไม่ได้ต้องการแค่คนที่ออกแบบเป็นเท่านั้น แต่ต้องการคนที่ตัดเย็บเป็นอีกด้วย ยิ่งทำได้เองทุกขั้นตอนจะยิ่งดี วิกกี้ต้องการจะเอาชนะพริมจึงโกหก

“ค่ะ วิกกี้ทำได้เองทั้งหมด”

“เยี่ยมเลย ถ้ายังไงเรานัดกันสักวันหนึ่ง ผมอยากเห็นหนูวิกกี้ทำด้วยตาตัวเอง”...

ภูรีรู้เรื่องที่วิกกี้บอกมิสเตอร์พีว่าทำรองเท้าทุกขั้นตอนด้วยตัวเองได้ก็ไม่สบายใจเพราะรู้ว่าเธอโกหก...

ฝ่ายพริมกลับถึงบ้านพร้อมก๋วยเตี๋ยวสองห่อ เห็นพัดลมตัวที่เสียเปิดค้างไว้ในสภาพใช้งานได้ ที่ใกล้ๆกันมีอุปกรณ์ช่างวางอยู่ก็ยิ้มพอใจที่พงศกรไม่นิ่งดูดาย ช่วยซ่อมพัดลมให้ ทันทีที่เห็นหน้าก็ชมเขาเป็นการใหญ่ ว่าส่งไปซ่อมกับช่างแถวนี้ไม่มีใครซ่อมได้สักคน เขาทำให้เธอทึ่งสุดๆ แล้วนี่ซ่อมอะไรได้อีก เขาคุยอวดให้ถามว่าซ่อมอะไรไม่ได้จะดีกว่า เธอเห็นเขาชอบด้านนี้ยุให้เรียนทางนี้ไปเลย

“คุณแม่ไม่ชอบ คุณแม่ว่าเป็นงานของพวกขี้ข้า”

ไม่ต้องเดาพริมก็รู้ว่าที่พงศกรเป็นแบบนี้เพราะใคร ความจริงใจที่พริมมีให้ ทำให้กำแพงในหัวใจของพงศกรค่อยๆทลายลง...

ในเวลาไล่เลี่ยกัน วีรีเอาของกินในตู้เย็นบ้านพัชราใส่กล่องพลาสติกจะเอาไปฝากพงศกรแต่ถูกแม่บ้านจับได้เสียก่อน เอาตัวไปให้บารมีที่เพิ่งกลับเข้ามาชำระความ ท่านไล่แม่บ้านมีอะไรต้องทำก็ไปทำ ท่านจะคุยกับวีรีเอง แล้วรอจนแม่บ้านไปแล้วจึงคาดคั้นให้วีรีบอกว่าเอาของกินพวกนี้ไปให้ใคร

“ให้พี่พงศ์ค่ะ ตอนนี้พี่พงศ์อยู่บ้านพี่พริม”...

พริมเห็นพงศกรชอบซ่อมโน่นนี่ก็เลยไปขอเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียจากเพื่อนบ้านเอามาให้เขาซ่อม เขาทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง จึงได้รับคำชมจากเธอไปเต็มๆ...

บารมีรู้ว่าวันนี้ภูรีจะมารับวีรีพาไปหาพงศกรก็ขอติดรถมาด้วย ไม่ได้มีแค่บารมีกับวีรีเท่านั้นที่มาบ้านพริม อินทัชกับปริตาก็แวะมาที่นี่เช่นกันโดยไม่รู้ว่าคุณณีส่งนักสืบคอยตามเก็บภาพของทั้งคู่ ดังนั้นภาพที่แอบถ่ายจึงติดบารมีกับวีรี ภูรี พริมและพงศกรที่นั่งล้อมวงกินข้าวกลางวันที่ศาลาริมน้ำบ้านพริมไปด้วย

ooooooo

คุณณีไม่ได้เก็บภาพนี้ไว้ดูคนเดียวส่งไลน์มาให้พัชราดูด้วย เธอถึงกับเต้นเป็นเจ้าเข้า หลังจากเล่นงานวีรีแล้ว พัชราตรงมาที่บ้านพริม เจอลูกชายตัวดีกำลังหัวเราะหัวใคร่อยู่กับพริมแถมเรียกเธอว่าพี่อย่างเต็มปากเต็มคำก็ฉุนขาด เข้าไปตบเธอล้มคว่ำไปกับพื้น แล้วหันไปตวาดพงศกร

“แกไม่ต้องไปเรียกมันว่าพี่ มันไม่ใช่พี่ของแก” พัชราตามเข้าไปกระชากพริมขึ้นมา พงศกรพยายามห้ามแต่ไม่เป็นผล พัชราด่าว่าเธอเสียๆหายๆหาว่าที่มาทำดีกับพงศกรเพราะอยากจะเอาชนะตน พริมไม่เคยคิดอย่างนั้น และตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมลูกๆของพัชราถึงเป็นคนไม่เอาไหนทั้งที่พ่อแม่เก่ง เพราะพัชราบังคับให้ลูกเป็นอย่างที่ตัวเองต้องการ อยากให้ลูกประเสริฐเพื่อมัดใจบารมีให้รักลูกรักครอบครัวมากๆ

“คุณรักแต่ตัวเอง คุณไม่เคยรักลูกของคุณอย่างแท้จริง”

พัชราไม่พอใจที่พริมมาสั่งสอนปรี่เข้าไปจะตบซ้ำ พงศกรเอาตัวขวางไว้ พัชราขู่ ถ้าพริมคิดจะเป็นศัตรูกับตนอย่างที่แม่ของเธอทำ เธอก็จะได้เจออย่างที่แม่เธอเจอจากตนเหมือนกัน แล้วคว้าแขนพงศกรออกไป...

ด้านภูรีนัดวิกกี้ออกมาพบเพื่อบอกว่ามิสเตอร์พีอยากจะนัดให้เธอมาตัดรองเท้าให้ดูวันพรุ่งนี้แต่เขารู้ว่าเธอยังไม่พร้อมก็เลยให้เลื่อนออกไปก่อน แล้วตำหนิเธอไม่ควรไปโกหกท่านแบบนั้น แต่ถ้าเธอต้องการโอกาสเข้าทำงานกับ P.PAUL เธอต้องผ่านการทดสอบนี้ให้ได้และมีคนเดียวที่จะช่วยเธอได้นั่นคือพริม...

พัชรามีปากเสียงรุนแรงกับพงศกรเพราะเขายอมรับพริมเป็นพี่สาว ถึงขั้นลงไม้ลงมือตบตีเขาอุตลุด บารมีทนเห็นเธอมีพฤติกรรมเลวร้ายแบบนี้ต่อไปไม่ไหว จะขอหย่าให้รู้แล้วรู้รอด พัชราไม่ยอมหย่า ขืนเขาทิ้งเธอไปจะตามราวีเขาให้ไม่รู้จักความสงบสุขอีกเลย บารมีไม่สนใจคำขู่เชิญเธอทำตามสบายเพราะตั้งแต่แต่งงานกับเธอ ชีวิตเขาก็ไม่เคยรู้จักคำว่าสงบสุขอยู่แล้ว ก่อนจะผละจากไป พัชราสติแตกร้องกรี๊ดๆลั่น

วิกกี้ต้องเข้าไปกอดแม่ไว้ พยายามปลอบเพื่อเรียกสติท่านกลับมา

ooooooo

อ่านละคร เสน่ห์รักนางซิน ตอนที่ 11 วันที่ 15 พ.ค.61

บทประพันธ์โดย จันทริกา
กำกับการแสดงโดย สมจริง ศรีสุภาพ
ผลิตโดย บริษัท กู๊ด ฟิลลิ่ง จำกัด
ช่องออกอากาศ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ