อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 10 วันที่ 12 มี.ค.61

อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 10 วันที่ 12 มี.ค.61

ขุนศรีวิสารวาจาหงุดหงิดพาลใส่จ้อยยกใหญ่ ปริก จวง จิกและบุ้งปลอบใจจ้อย ปริกโทษว่าเป็นเพราะการะเกดที่ทำให้ท่านขุนอารมณ์เสีย...ขุนศรีวิสารวาจาตัดสินใจมาขอให้จำปาจัดงานแต่งให้ตนกับการะเกด แล้วเดินกลับมาอย่างสบายใจขึ้น เห็นจ้อยหมอบเกร็งก็ลูบหัวบอกอย่าถือสา จ้อยน้ำตาเอ่อจับมือท่านขุนกดหัวอย่างเทิดทูน

พอเกศสุรางค์กลับขึ้นเรือนมา ท่านขุนเรียกและบอกว่า บ้านเราจะมีงานใหญ่ให้เตรียมตัวไว้ หญิงสาวตื่นเต้นจะมีเรื่องสนุกอีก ถามว่าใหญ่แค่ไหน ท่านขุนว่าเป็นงานสำคัญของเธอ ผินกับแย้มรู้ทันทีว่างานอะไร แต่เกศสุรางค์ยังไม่รู้ ได้แต่ตื่นเต้นเดินไป



เข้ามาในห้อง เกศสุรางค์ก็บอกผินกับแย้มเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้ด้วยไม่ต้องมีเครื่องทรงเยอะ จะใส่สังวาลเส้นเดียว สองบ่าวหัวเราะคิกคัก ผินบอก

“ไม่ได้เจ้าค่ะ ต้องแต่งกันให้สุดๆไปเลยเจ้าค่ะ”

“งั้นเชียว” เกศสุรางค์ก้มหน้าเขียนบันทึก “การค้าอยุธยาเป็นระบบผูกขาดสมบูรณ์แบบ ราษฎรถูก...

ขูดรีดกดขี่...ได้ไหมเนี่ย มันใช่นี่นา ขายของก็ต้องขายให้เจ้าเดียว ราคาก็ต่อรองกันไม่ได้” เสียงผินกับแย้มพูดว่างานแต่งงานทั้งที...เกศสุรางค์ได้ยินไม่ถนัด ถามงานแต่งใคร

“ออกขุนกับแม่นายไงเจ้าคะ”

“จนได้...ถึงเวลาจนได้” เกศสุรางค์กุมขมับหวั่นใจ บอกให้ผินกับแย้มออกไปหาขนมให้

พอสองบ่าวออกไป เกศสุรางค์ก็เรียกการะเกด แล้วย้ำว่าตนจะรักษาสัญญาไม่ต้องกลัว...ค่ำนั้น เกศสุรางค์ครุ่นคิดนอนไม่หลับออกมายืนมองจันทร์ที่ชานเรือน ได้ยินเสียงก๊อกแก๊กหันมาเจอขุนศรีวิสารวาจา ก็จะเลี่ยงหนี แต่เขาเข้ามาประชิด สายตาบ่งบอกความในใจอย่างมาก หญิงสาวหวั่นไหวใจสั่นแต่ต้องเดินหนีเพราะเกรงใจการะเกด ท่านขุนแปลกใจท่าทางของเธอ

จากนั้น ทุกเช้าเกศสุรางค์ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้การะเกด จนคนในบ้านแปลกใจ ปริกอดเหน็บแนมไม่ได้ว่า ตั้งหน้ากรวดน้ำเป็นนานสองนาน คนบาปเช่นนั้นทำไปก็ไม่ถึงใคร ผินกับแย้มเองยังแอบกระซิบกันน้ำตาคลอว่า แม่นายกรวดน้ำให้แม่นายการะเกดเป็นแน่

ขุนเรืองมาคุยธุระเสร็จจะไปหาจันทร์วาด เห็นเกศสุรางค์ก็เข้ามาบอกว่า ที่เธอเคยถามว่าเคยเห็นเธอมาก่อนไหม ขอตอบว่าไม่เคย หญิงสาวทำนิ้วโอเคจบ ขุนเรืองทำนิ้วตามแล้วหัวเราะ ขุนศรีวิสารวาจาเห็นเกิดอาการหึง ไม่พูดจาด้วย เกศสุรางค์ยิ่งสะเทือนใจ

ในขณะที่ขุนเรืองมาพูดคุยให้จันทร์วาดสบายใจหายเศร้า แต่คุณหญิงนิ่มกลับแสดงออกว่าไม่ยินดีได้เขาเป็นลูกเขย ด้วยเชื้อสายด้อยกว่าขุนศรีวิสารวาจา จันทร์วาดหนักใจน้ำตาตก

วันต่อมา พระวิสุทธสุนทรมาเรือนออกญาโหราธิบดี เพื่อบอกการะเกดว่าจะเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง เกศสุรางค์ยิ่งหนักใจ ในขณะที่ขุนศรีวิสารวาจายิ้มแย้ม...ผู้ใหญ่คุยกันเรื่องสินสอด

ooooooo

เกศสุรางค์เดินเศร้าเข้าห้อง ทันทีที่เปิดประตู ใบหน้าการะเกดพุ่งมาจ่อตรงหน้า สีหน้าหมองดำชอกช้ำใจ พูดเสียงแหบพร่าว่า...ออเจ้าผิดสัญญา... เกศสุรางค์หันไปห้ามผินกับแย้มอย่าเพิ่งเข้ามา สองบ่าวถอยออกไปนั่งหน้าห้อง หญิงสาวปิดประตูทันทีแล้วกล่าว

“การะเกด ขอเจ้าไว้ใจข้า...”

“ข้าไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น” สีหน้าการะเกดน่ากลัวเสียงแหลมขึ้น “จะตบแต่งกันอยู่แล้ว”

“การะเกด กุศลที่กรวดน้ำไปให้ไม่ถึงเจ้าเลยหรือ” เสียงตอบว่าได้ เกศสุรางค์เสียงเข้มขึ้น “แล้วไงล่ะ... แล้วไง ยังไม่เชื่อกันอีกหรือไงว่าฉันพยายามทำตามคำพูด ทุกอย่าง”

วิญญาณการะเกดนิ่งแล้วค่อยๆสลายไปจนเหลือแต่เงารางๆ เกศสุรางค์กุมขมับไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป ดี...ที่หน้าห้อง ขุนศรีวิสารวาจาเดินมาจะเปิดประตูแต่ผินกับแย้มขวางไว้บอกแม่นายไม่ให้ใครเข้าไป

เกศสุรางค์ได้ยินเสียงยิ่งตกใจบอกการะเกดว่าคุณพี่มา ประตูเปิดออกอย่างแรง วิญญาณการะเกดหายวับ ท่านขุนก้าวพรวดเข้าในห้องยิงคำถามทันที

“แม่การะเกด ออเจ้ามีอะไรสงสัยในตัวข้าฤาเจ้า”

เกศสุรางค์ขอร้องให้เขาออกไปก่อน แต่เขาไม่ยอมจะให้เธอตอบ เขาจับไหล่เธอเขย่าให้ฟัง หญิงสาวหวั่นใจการะเกดจะโกรธ จึงขอร้องให้ท่านขุนปล่อยและออกไปก่อน แต่เขายื้อ

“ไม่ว่าออเจ้าจะคิดยังไร ออเจ้าก็หลีกหนีข้าไม่พ้น แลข้า...ก็ไม่ปล่อยให้เจ้าหลีกหนีด้วย ข้าไม่มีวันผิดคำ” ขุนศรีวิสารวาจาจ้องตานิ่งนาน


เสียงการะเกดสะอื้นด้วยความชอกช้ำใจอยู่ในมุมมืด สีหน้าเปลี่ยนเป็นปีศาจน่ากลัว ท่านขุนผละออกไปแล้วปิดประตูแรง ร่างการะเกดบิดเบี้ยวซวนเซมากองกับพื้นร้องไห้โหยหวน เกศสุรางค์ปราดเข้าไปกอด ตัวเองก็น้ำตานองหน้า ปลอบให้การะเกดคลายความโศกเศร้า

“ข้าไม่มีวันผิดสัญญากับเจ้า ข้า...อย่ากลัวเลยการะเกด ข้าจะทำทุกอย่างให้วิญญาณของเจ้าเป็นสุข ข้าจะทำบุญให้ ข้าจะสวดมนต์ให้ ข้าจะภาวนาให้เจ้า แต่ข้าจะไม่แต่งงานกับคุณพี่ คุณพี่ยังเป็นของออเจ้านะการะเกด” วิญญาณการะเกดจะเลือนหาย “การะเกดอยู่ก่อน อย่าเพิ่งไป พูดกับข้าก่อน บอกข้าว่าเจ้าเชื่อข้า...” การะเกดหายวับไป เกศสุรางค์ฟุบหน้าร้องไห้อยู่ตรงนั้น

ทั้งขุนศรีวิสารวาจา ผินและแย้มได้ยินเสียงร้องไห้ จะเข้าไปหา เกศสุรางค์ร้องบอกว่าอย่าเพิ่งเข้ามากวนใจ ท่านขุนพลอยชะงักไปด้วย...ท่านขุนเดินนำผินกับแย้มมาที่หอกลางบ้าน ครุ่นคิดแล้วถามทั้งสองว่า แม่นายพวกเธอมีเรื่องโศกเศร้าอันใดรู้บ้างไหม สองบ่าวตอบว่าไม่รู้

“ข้ามิอยากให้แม่นายของเอ็งสองคนต้องทุกข์ใจแม้แต่น้อย มิว่าจะเป็นเรื่องใดๆ เอ็งสองคนรักภักดีต่อนางข้ารู้ จงอย่าละเลยดูแลนาง ถ้ารู้ว่านางโศกเศร้าด้วยเรื่องอันใดมาแจ้งข้าด้วย...แม่นายของเอ็งมิได้ร้ายกาจเหมือนเก่าแล้วหนานางผินนางแย้ม”

สองบ่าวก้มกราบน้ำตากบตาด้วยซาบซึ้งใจ...ด้านเกศสุรางค์นั่งทอดถอนใจอยู่ในห้อง คิดถึงเรืองฤทธิ์ที่เมื่อก่อนคิดว่ารักเขา แต่ทำไมตอนนี้กลับไม่รู้สึกเหมือนตอนนั้น

ooooooo

วันต่อมาขุนเรืองมาปรับทุกข์เรื่องจันทร์วาด เกศสุรางค์ให้คำแนะนำว่าต้องตื๊อเพราะตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก ขุนเรืองทำหน้างง เธออธิบายใหม่ว่าอย่ายอมแพ้หมั่นไปหาจันทร์วาดให้บ่อยขึ้นทุกวันยิ่งดี และมีของกำนัลไปประเคนด้วย ไม่ใช่การติดสินบน แต่เป็นการให้ด้วยความรัก

“คุณหญิงนิ่มแม่ของนางรังเกียจข้าออกนอกหน้า ข้าคงหมดหวังต้องหันกลับมาขอพันผูกออเจ้าอย่างเคยกระมัง” เกศสุรางค์หัวเราะปากกว้างว่าเขามโนสุดยอด เขาพูดตาม “มโน...สุดยอด...นางงามนะ แม้ว่าจะงามไม่เท่า ออเจ้า แต่ข้ามิอาจรักออเจ้าแม้ว่าข้าจะอยากรักออเจ้า ด้วยเหตุว่าคู่หมั้นของออเจ้า เขารักออเจ้ามากจนข้ามิอาจยื้อแย่งออเจ้า แม้ข้าจะอยากทำเพียงใด”

เกศสุรางค์อ้าปากค้างไม่คิดว่าเขาจะพูดยาวขนาดนี้...ห่างออกมา ขุนศรีวิสารวาจายืนมองทั้งสองคุยกันใกล้ชิดด้วยความไม่พอใจ สั่งผินไปตามการะเกดกลับขึ้นเรือน เกศสุรางค์ชวนขุนเรืองขึ้นเรือน ผินรีบบอกว่าท่านขุนเรียกแม่นายคนเดียว

“บอกมางั้น?” เกศสุรางค์ย้อนถาม

“งั้นเจ้าค่ะ”

“วาจาของออเจ้าช่างแปลกประหลาด นางผินเอ็งก็พลอยพูดประสาแม่หญิงไปด้วย”

“เจ้าค่ะ ไม่อย่างนั้นจะพูดด้วยแม่หญิงรู้ความหรือเจ้าคะ”

เกศสุรางค์บอกผินเดี๋ยวไป แต่ผินบอกมิได้ต้องประเดี๋ยวนี้ หญิงสาวสวนไม่...เสียงเข้ม ผินหน้าเหยทำนองคงตายแน่ เกศสุรางค์ถอนใจ ขุนเรืองเย้าว่าสาเหตุใดก็รู้อยู่แก่ใจ แต่ผินแย้ง

“แม่นายหารู้ไม่เจ้าค่ะ ออกขุนเรืองว่าออกขุนท่านน่ะหงุดหงิดทุกคราเพราะอะไร”

เกศสุรางค์หันหลังจะเดินไป อมยิ้มในหน้าทำนองมีหรือตนจะไม่รู้...พอขึ้นมาบนเรือน ขุนศรีวิสารวาจาสั่งให้เธอนั่งแต่เธอกวนกลับว่ายืนฟังได้ ท่านขุนเสียงเข้มสั่งให้นั่งลง

“โห...แรงอ่ะ” เกศสุรางค์บ่นเบาๆมองคนอื่นๆ ที่นั่งทำงานกันอยู่อย่างไม่สนใจ

“ร้องไห้ร้องห่มเหมือนจะเป็นจะตายอยู่หยกๆ ไม่ทันข้ามวันหัวเราะหัวใคร่ผิดตายิ่งนัก”

อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 10 วันที่ 12 มี.ค.61

ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทประพันธ์โดย รอมแพง
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทโทรทัศน์โดย ศัลยา
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส กำกับการแสดงโดย ภวัต พนังคศิริ
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ออกอากาศเร็ว ๆ นี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ