อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 3 วันที่ 8 ม.ค.61

อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 3 วันที่ 8 ม.ค.61

“คนเราเกิดมาความจำเป็นไม่เท่ากันหรอกพวกเธอน่ะโชคดีนะที่เกิดมาสมบูรณ์พร้อม ในขณะที่ฉันต้องดิ้นรนเล่นงิ้วร้องงิ้วเพื่อความอยู่รอด แต่อย่างหนึ่งที่ฉันคิดว่า ฉันมีในตัวไม่น้อยไปกว่าพวกเธอก็คือศักดิ์ศรี แล้วก็ความภาคภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์”

เพื่อนๆฟังแล้วเห็นจริง กนกวิภาไม่พอใจจ้องบัวตาแทบถลนก่อนจะสะบัดหน้าออกไป ระหว่างนั่งสงบสติอารมณ์ มีเพื่อนที่ตามมาด้วยสองสามคน ทันใดยิ่งจันทร์ แต่งตัวเฉิดฉายเดินเข้ามาร้องทัก เพื่อนๆตะลึงกับความสวยของเธอ กนกวิภาเห็นยิ่งจันทร์ก็กรีดกรายอย่างเธอวิ่งเข้าไปสวมกอดกัน ยิ่งจันทร์ร้องกรี๊ด...เริ่ดสะแมนแตนซะไม่มี

กนกวิภาถามลมอะไรหอบมา ยิ่งจันทร์อ้างว่าผ่านมาแถวนี้ คิดถึงเลยแวะหาจะชวนไปทานกลางวันแล้วช็อปปิ้ง กนกวิภาคิดเพราะมีเรียนบ่ายแต่เรื่องช็อปปิ้งสำคัญกว่า ยิ่งจันทร์ยิ้มแต้



“ไปรถน้องหนกนะคะ พอดีคนรถพี่ต้องไปรับคุณพ่อคุณแม่ไปงานต่อน่ะค่ะ”

กนกวิภารับคำหันมาหยิบกระเป๋าและแนะนำกับเพื่อนๆว่า นี่ว่าที่พี่สะใภ้ เพื่อนๆฮือฮา ระหว่างเดินไปที่รถ เห็นบัวถือหนังสือเดินอยู่ข้างหน้า กนกวิภาบ่นว่าเกลียดเป็นแค่นางเอกงิ้ว ชอบทำตัวหยิ่งยโส ยิ่งจันทร์ อาสาจัดการให้ ว่าแล้วก็เดินแซงขึ้นไปกระแทกบัวหนังสือหล่นกระจาย บัวตกใจก้มเก็บ กนกวิภาเดินตามมาแขวะ

“มีปัญหาอะไรไหม ยัยงิ้ว”

“นางเอกงิ้ว! ต๊าย...ไม่บรรเจิดเริ่ดสะแมนแตนเอาซะเลย แล้วมาเรียนที่ดีๆแบบนี้ได้ยังไงคะ กลับโรงงิ้ว ไปซะไป๊ ชิ้วๆ”

“ฉันเล่นงิ้วแล้วมันเดือดร้อนคุณตรงไหนไม่ทราบ”

“ไม่ได้เดือดร้อน แต่รังเกียจเข้าใจไหม” กนกวิภาสวน

ยิ่งจันทร์ให้เลิกเสวนา เราเป็นผู้ดีไม่ควรไปตอแยกับพวกไพร่ กนกวิภาเห็นด้วย บัวถามขึ้นว่าทั้งสองเป็นผู้ดีหรือ สองสาวรับเชิดๆว่าใช่

“เพิ่งรู้ว่าพวกผู้ดีอย่างคุณ เขาทำตัวเหมือนไพร่...” พูดจบบัวเดินไปทันที

สองสาวยืนหน้าชา เข่นเขี้ยวฝากไว้ก่อน เจอคราวหน้า จะเอาให้หนัก

ooooooo

ที่โรงงิ้ว ดำเกิงนั่งซ่อมของที่โดนกนกวิภาชนจนพัง ทันใดนั้นได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของธานีที่มาทวงเงินกับเจียงอีก ธานีหาว่าเจียงตุกติกไม่จ่าย เจียงบอกว่าไม่ได้ตุกติกแต่ต้องเอาเงินมาซ่อมของที่เสีย เพื่อได้แสดงงิ้วคืนนี้แล้วมีเงินจ่ายเขา ธานีไม่ค่อยพอใจ

“ได้ก็ได้วะ งั้นอั๊วจะมาใหม่พรุ่งนี้ แต่คิดดอกเบี้ยเพิ่มสองเท่านะเว้ย ไปไอ้ขวดกลับ”

หลอหนักใจพรุ่งนี้จะมีพอจ่ายหรือ เจียงเครียดไม่น้อย...ธานีเดินเซ็งมาตามทาง เจอไหมฟ้าเดินถือขวดเหล้า เมาไม่เป็นท่า ก็ยิ้มกระหยิ่มใจ อย่างไรเสียวันนี้ก็ไม่เสียเที่ยว จะเอาอดีตนางเอกงิ้วทำเมียเสียหน่อย ธานีโอบกอด ไหมฟ้า ด้วยความเมาเธอจึงอ่อนระทวยไปกับเขา...

กนกวิภากับยิ่งจันทร์ทานอาหารเสร็จ ยิ่งจันทร์ชวนลุยช็อปปิ้ง กนกวิภาทำหน้ามุ่ยบอกวันนี้ทั้งห้างเซลแทบทุกร้าน ถ้าตนเข้าไปซื้อแล้วนักข่าวเห็นจะเอาไปเขียนข่าวว่าเราตะลุยของถูก ยิ่งจันทร์ฝืนยิ้มอย่างเสียดาย

“ต๊าย...บรรเจิดเริ่ดสะแมนแตนซะไม่มี จริงด้วยค่ะ น้องหนกนี่รอบคอบจริงๆ พี่ล่ะเบื๊อเบื่อพวกที่คอยจ้องว่าเราเป็นคนดัง เป็นคนสำคัญของสังคม จะกระดิกทำอะไรนิดอะไรหน่อย มันก็เอาไปเป็นข่าวแล้ว เอายังงี้ดีไหมคะ ร้านไหนติดป้ายเซลเราก็ไม่เข้า เลือกเข้าเฉพาะร้านเก๋ๆ ดิสเพลย์สวยๆดีไหมคะ” ยิ่งจันทร์แนะนำทั้งที่ยังเสียดาย

กนกวิภาชมว่ายิ่งจันทร์น่ารัก เธอนึกได้ถามถึงชยุติ กนกวิภาบอกว่าไปดูโรงงานกับป๊าม้า แล้วคิดแผนถ้ายิ่งจันทร์อยากเจอจะจัดการให้ ยิ่งจันทร์ยิ้มรับว่าอยากเจอมาก

ไชโยได้รับโทรศัพท์จากลูกสาวแล้วหันมาบอกชยุติว่า น้องรถเสียอยู่ที่มหาวิทยาลัยให้เขาไปรับ ชยุติโบ้ยให้ชูดวงไป ไชโยคะยั้นคะยอให้เขาไปเพราะรู้แผนการ ของกนกวิภาดี

ชยุติรู้สึกทะแม่งๆแต่ไม่อยากขัดใจป๊า พอมาถึงมหาวิทยาลัย เห็นบัวกำลังจะกลับก็ปรี่เข้าไปทักและชวนกลับด้วยกัน บัวรีบปฏิเสธบอกว่าต้องไปสอนพิเศษต่อ กนกวิภากับยิ่งจันทร์เดินมาไม่ทันเห็นบัวเพราะเธอแยกไปแล้ว

“มองหาอะไรคะพี่ติ นี่...พี่จันทร์อยู่นี่ค่ะ เซอร์ไพรส์ของเราได้ผลค่ะ”

“จันทร์ทำให้พี่ติลำบากใจที่ต้องทิ้งงานมารึเปล่าคะ” ยิ่งจันทร์ทำท่าเขินอาย

ชยุติฝืนยิ้มปฏิเสธ...ขณะที่บัวมาสอนพิเศษเด็กๆในชุมชน ไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่ เพราะนึกถึงชยุติกับยิ่งจันทร์ ...บัวแอบเห็นยิ่งจันทร์เกาะแขนชยุติเดินไปขึ้นรถ กนกวิภา แยกตัวออกไปปล่อยให้ทั้งสองไปด้วยกันลำพัง

ไม่ทันไรชยุติกลับถึงบ้าน วลีกับวลัยซักถามอย่างตื่นเต้นทำไมกลับมาเร็ว น่าจะอยู่คุยกับยิ่งจันทร์นานๆ เขาอ้างว่าเกรงใจไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อน ไชโยล้อว่าเริ่มรักยิ่งจันทร์ขึ้นบ้างแล้วใช่ไหม ชยุติจะค้านแต่กนกวิภาแทรกพูดว่า ไม่มีใครเหมาะสมกับพี่ชายตนเท่ายิ่งจันทร์

“ตอนนี้ในหัวพี่มีแต่เรื่องงาน ยังไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นหรอก”

“แล้วงานที่โรงงานเป็นยังไงบ้าง พอไหวไหม” วลีเปลี่ยนเรื่อง

“ยังมีอีกหลายเรื่องที่ผมต้องเรียนรู้ครับม้า แต่ไม่น่าจะเหลือบ่ากว่าแรง”

“พี่ติทนกลิ่นโรงงานนั่นได้ยังไงทั้งคาวทั้งเหม็น กนกไปแค่แป๊บเดียวก็จะเป็นลมแล้ว”

มาลัยได้ยินสวนทันควัน “ไม่ใช่เพราะโรงงานน้ำปลาของอากงหรอกเหรอ ที่ทำให้พวกลื้อมีกินมีใช้อย่างทุกวันนี้น่ะ พอสุขสบายเข้าหน่อยก็ลืมตัวลืมตีน” มาลัยชี้หน้าลูกหลานเรียงตัว

วลัยเอ็ดมาลัยไม่ให้พูดคำว่าตีน...มาลัยแกล้งพูดย้ำๆ วลีเรียกจี๊ดมาพาอาม่าไปกินข้าว มาลัยรู้ทันบอกไม่ต้องไล่ ชยุติเข้ากระซิบเดี๋ยวเจอกันที่เก่า อาม่ายิ้มแป้ รีบเดินไป

ooooooo

ไหมฟ้ารู้สึกตัวขึ้นมาพบว่าตัวเองตกเป็นเมียธานี ก็โวยวายฟูมฟายยกใหญ่ จะแจ้งตำรวจให้มาลากคอเขาเข้าคุก ธานีไม่หวั่นกลับปลุกปล้ำไหมฟ้าอีกรอบ...ไม่เพียงเสียตัวเท่านั้น  ออกมาจากบ้านธานี ไหมฟ้าเจอตรึงจิตเยาะเย้ยถากถางจนเกิดการตบตีกันอีกครั้ง ชาวบ้านเชียร์กันเฮๆ

มาลัยไม่ยอมกินข้าว เทเม็ดก๋วยจี๊ใส่ถุงเตรียมไปดูงิ้ว จี๊ดกับจ๊าดพยายามจะให้กินข้าวก็โดนโวยวายใส่จนทั้งสองระอาไม่อยากสนใจ ชูดวงเข้ามาในครัวเตือนสองสาวว่า กินเงินเดือนเจ้านายก็ต้องดูแลแม่ท่านให้ดี สองสาวหน้าเบ้บ่นว่ายิ่งกว่าเลี้ยงเด็กเจ็ดขวบ ระหว่างมัวแต่เถียงกันกว่าจะรู้ตัวอาม่าก็หายไปแล้ว จึงรีบมารายงานวลี กนกวิภาเข้ามาบอกว่าชยุติก็หายไปด้วย วลีหงุดหงิดรู้ว่าคงพากันไปโรงงิ้วแน่ๆ

ในชุมชนซอยโรงงิ้ว บัวสอนพิเศษเด็กๆเสร็จ

แม่เด็กคนหนึ่งบอกว่าวันนี้ขายของไม่ได้ไม่มีจ่ายขอผลัดไปก่อน และพรุ่งนี้ลูกคงไม่ได้ไปโรงเรียนเพราะไม่มีเงิน บัวสงสารควักเงินตัวเองยี่สิบบาทให้ บอกใกล้สอบแล้ว ไม่ควรขาดเรียน เอาเงินนี้ให้เป็นค่าขนมลูกไปเรียน

“โถแม่คุณ น้ำใจช่างงามเหลือเกิน ขอให้เจริญยิ่งๆขึ้นไปนะ” แม่เด็กตื้นตัน

ทางเข้าชุมชนช่วงเย็นย่ำ ร้านรวงออกมาตั้งเต็มไปหมด มาลัยเดินมากับชยุติ เรียกเด็กๆให้ไปดูงิ้วด้วยกันและจะเลี้ยงกระเพาะปลาด้วย เด็กๆเฮโลวิ่งตามมาลัยเป็นพรวน ชยุติชื่นชมอาม่าช่างใจดีกับเด็กๆ อาม่า บอกเด็กๆน่าสงสาร พ่อแม่หาเช้ากินค่ำ อดมื้อกินมื้อไปตามเรื่อง

“กนกควรจะออกมาเห็นชีวิตเด็กๆพวกนี้ จะได้รู้ว่าตัวเองโชคดีแค่ไหน ไม่ต้องอดๆอยากๆ” ชยุตินึกถึงน้องสาว

“คิดดูสิอาตี๋ บ้านเราใหญ่โตห้าไร่หกไร่ แต่อยู่กันแค่ไม่ถึงสิบคน แต่ที่นี่แค่หลังบ้านเรา มันตรงกันข้ามเลย ซอกเล็กเท่ารูหนู อัดกันอยู่เป็นร้อย บอกตามตรงว่าอาม่าอายว่ะ”

“อาม่าอายอะไรเหรอครับ”

“ความจนความรวยมันต่างกันเกินไป ไอ้ที่รวยอยู่แล้วก็รวยเอารวยเอา ไอ้ที่จนก็จนต่อไปไม่ต้องลืมตาอ้าปาก...อาม่ากับอากงก็เคยจนกันมาก่อน จนขนาดแทบไม่มีข้าวสารจะกรอกหม้อ ถึงวันนี้อาม่าชักจะเกลียดมันแล้วว่ะ ความรวยน่ะ” มาลัยหัวเราะกับตัวเอง

“ผมภูมิใจในตัวอาม่าจริงๆเลยครับ” ชยุติยิ้มชื่นชม

คืนนี้ตรึงจิตหมายมั่นจะแสดงให้เต็มที่ พยายามซ้อมบทอยู่หน้ากระจก ดำเกิงเห็นคนดูเข้ามามากมายก็บ่นกับหลอว่า คนดูคงผิดหวังที่ไม่ได้ดูบัวเล่น ตรึงจิตได้ยินแหวใส่ทันที เจียงห้ามศึกไล่ดำเกิงไปทำอย่างอื่น หลอถอนใจถามเจียงแน่ใจหรือที่จะให้ตรึงจิตเป็นนางเอกคืนนี้

“ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้หรอกซินแส อาตรึงจิตอีอาจจะทำได้ดีก็ได้”

หลอเดินส่ายหน้าไม่เห็นด้วยไปประจำหน้าเวที... บัวแอบมองชยุติพูดคุยกับเด็กๆอย่างเป็นกันเองก็เผลอยิ้มอย่างลืมตัว ดำเกิงเดินมาเห็นถามยิ้มอะไร บัวแก้ตัวว่าเห็นอาม่าใจดี

“ไหน...อ๋อ อาม่าแกอยู่บ้านหลังใหญ่ปากซอยบ้านเรา แกใจดีนะ ได้ยินมาว่าคืนนี้แกเหมากระเพาะปลาเลี้ยงเด็กๆด้วย แต่บอกตามตรงเกิ่งไม่ค่อยชอบขี้หน้าหลานชายแกเลย”

“ทำไมล่ะเกิ่ง ตอนเด็กๆเขาก็เคยมาเล่นกับเราที่โรงงิ้วบ่อยๆ ทำไมถึงไม่ชอบเขาล่ะ”

ดำเกิงว่าเวลาเปลี่ยน ใจคนก็เปลี่ยน เรามันคนละชั้นกับเขา เขาหายไปเรียนเมืองนอกตั้งนาน ไม่เคยมาบอกลาสักคำ คงไม่นับว่าเราเป็นเพื่อน บัวสลดลงคล้อยตามคำพูดของดำเกิง

ooooooo

เสียงดนตรีงิ้วประโคมดังขึ้น นกขมิ้นร่ายรำออกมา กลุ่มคนดูปรบมือและรอชมนางพญางูขาวด้วยความตื่นเต้น แต่พอเห็นว่าไป๋ซู่เจินไม่ใช่บัวเป็นตรึงจิต ซึ่งร้องเสียงสูงปรี๊ดออกมาจนคนดูแสบแก้วหู ก็เริ่มส่งเสียงบ่นฮือฮา ไม่นานมีการขว้างปาข้าวของใส่พร้อมโห่ไล่

หลอตบอกบ่นว่าชื่อเสียงคณะป่นปี้แน่คราวนี้

เจียงหน้าดำคร่ำเครียดคิดไม่ตก ตรึงจิตกับนกขมิ้นวิ่งกลับเข้ามาหลังเวทีโวยวายทนไม่ไหว บัวเข้ามาขอร้องตรึงจิตให้ออกไปแสดงให้จบ ตรึงจิตไม่ยอม ถอดชุดงิ้วออกแล้วสะบัดก้นออกไปด้วยความโกรธ เจียงตัดสินใจจะออกไปขอโทษคนดูและของดการแสดงคืนนี้ แต่ไม่ทันจะเดินออกไปก็ความดันขึ้นเป็นลมล้มลง

“พี่นกขมิ้น พี่ช่วยพาอาป๊าขึ้นรถไปส่งโรงพยาบาลก่อนนะ เดี๋ยวบัวตามไป”

“เฮ้ย อาเกิ่ง ลื้อรีบออกไปขัดตาทัพก่อน” หลอไล่ดำเกิงแล้วบอกบัวให้ไปดูแลเจียง

“อาป๊าเคยสอนว่า ชื่อเสียงที่เสียไปแล้วเรียกกลับคืนมาไม่ได้ บัวจะไม่ยอมให้คณะเหลียนฮัวของเราต้องเสียชื่อ ยังไงวันนี้งิ้วก็ต้องเล่นให้จบ” สายตาบัวมุ่งมั่น

ดำเกิงเล่นจำอวดหน้าม่านเพียงลำพังอยู่พักใหญ่ จนคนดูเริ่มไม่ขำ ชยุติกระซิบถามมาลัยไม่ขำหรือ อาม่า ส่ายหน้าบอกยิ่งฟังยิ่งเครียด อยากดูนางพญางูขาวมากกว่า คนดูเริ่มส่งเสียงโห่ไล่...ด้านหลังเวที ทุกคนช่วยกันแต่งหน้าแต่งตัวให้บัว หลอถามบัวว่าจำบทได้แน่หรือ เธอรับคำแล้วขอบคุณพี่ๆทุกคน  บัวสูดหายใจเข้า

ก่อนจะเดินออกไปหน้าเวที

ชยุติกำลังชวนมาลัยกลับ ก็พอดีเสียงดนตรี

เปิดตัวดังขึ้น มาลัยยิ้มแฉ่งบอกนางพญางูขาวตัวจริงออกมาแล้ว คนดูเห็นท่ารำที่สวยงามและเสียงร้องอันไพเราะก็ปรบมือเกรียวกราว บัวร่ายรำและร้องบทเศร้าทำเอาคนดูน้ำตาซึมกันเป็นแถว หลอเห็นแล้วยิ่งทึ่งกับความสามารถของบัว

เสร็จสิ้นการแสดง บัวกลับเข้ามาหลังเวที หลอพลั้งปากชม “อาบัว ลื้อแสดงได้ดีมากๆเลย ไม่เสียแรงที่มีสายเลือดนางงิ้วอยู่ในตัว ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ”

“ซินแสหมายความว่ายังไง ที่ว่าบัวมีสายเลือดนางงิ้วอยู่ในตัว” บัวงง หลอรีบแก้ตัวใหม่

“ก็อาเจียงไง ลื้อเป็นลูกของอี ก็ต้องมีพรสวรรค์ด้านนี้อยู่แล้ว”

บัวกลัวว่าเจียงรู้จะโกรธ หลอให้กำลังใจว่ามันเป็นลิขิตของฟ้าฝืนไม่ได้ บัวรีบเปลี่ยนชุดไปดูเจียงที่โรงพยาบาล หลอไหว้ศาลเทพเจ้าฉั่งหง่วงส่วยประจำโรงงิ้ว ขอให้ทุกอย่างราบรื่น

คนดูเดินออกจากโรงงิ้วต่างชมนางเอกงิ้ว

ไม่ขาดปาก ชยุติประคองมาลัยจะพากลับ เขาบ่นว่า

ไป๋ซู่เจินน่าสงสาร มาลัยบอกนางเป็นปีศาจครองรักกับมนุษย์ไม่ได้

“ทำไมจะรักกันไม่ได้ล่ะครับอาม่า ถึงไป๋ซู่เจินจะไม่ใช่มนุษย์  แต่นางก็มีหัวใจที่บริสุทธิ์ โลกนี้ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย กีดกันอะไรไม่เข้าเรื่อง”

“อาตี๋เอ๊ย...เอารางวัลไปให้เขาหน่อยสิ บอกว่าอาม่าให้” มาลัยดูออกว่าหลานมีใจให้บัว

ชยุติชวนให้ไปด้วยกัน มาลัยอ้างว่าเมื่อยขาขอนั่งรอตรงนี้ ชยุติดีใจที่จะได้เจอบัว รับเงินจากอาม่ากุลีกุจอเดินไปหลังเวที...บัวเช็ดหน้าออกหมดกำลังหวีผม อยู่หลังม่าน ชยุติเดินมาหยุดมองหา ดำเกิงเห็นเข้ามาขวางและไล่ให้ออกไป ชยุติทักดำเกิงจำตนไม่ได้หรือ เขายียวนตอบว่าจำไม่ได้ ชยุติถอนใจขอเอารางวัลให้บัว ดำเกิงอ้างว่าบัวเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ ให้ฝากตนไว้

บัวเดินออกมาถามดำเกิงคุยกับใคร เขาโกหกว่าใครไม่รู้เอารางวัลมาให้บัวเป็นผู้หญิงแก่ บัวพยักหน้ารับรู้ แล้วเร่งให้รีบไปดูเจียงที่โรงพยาบาล

ชยุติกับมาลัยเดินเข้าบ้านด้วยเสียงหัวเราะ พลันต้องชะงักเมื่อเห็นทุกคนตั้งป้อมรอหน้าตาถมึงทึง ไชโยเปิดฉากตำหนิสนุกมากหรือที่ทำให้คนทั้งบ้านเป็นห่วง ชยุติจะอธิบาย

“ลื้อไม่ต้องมาแก้ตัว อั๊วอยากรู้นักว่าไอ้พวกงิ้วในสลัมนั่นมันมีอะไรดี”

“คุณคะพูดดีๆดีกว่า อย่าขึ้นอั๊วขึ้นลื้อเลย มันไม่น่าฟัง ฉันจะพูดกับลูกเอง” วลีปราม

พอวลัยตำหนิบ้าง วลีหันมาเอ็ดให้หุบปาก ลูกของตน

ตนจัดการเองได้ วลัยหน้าเจื่อน วลีถามชยุติว่าออกไปดูงิ้วในสลัมกับอาม่าจริงไหม มาลัยหัวเราะตอบแทน“รู้ว่าจริง จะให้ลูกมันตอบว่าไม่จริงได้ยังไงวะ”

วลีเสียงเข้มขอให้เงียบก่อน ตนต้องการให้ลูกตอบ ชยุติอึดอัดกับสถานการณ์นี้ยอมรับว่าไปเป็นเพื่อนอาม่า วลีรุกถามว่าแหกปากร้องดังแบบนั้นฟังรู้เรื่องหรือ

“งิ้วร้องเป็นภาษาไทยครับม้า ที่นั่นไม่ได้มีอะไรเลวร้ายอย่างที่ม้าคิดหรอกนะครับ ไว้วันหลังเราไปดูงิ้วด้วยกัน...”

วลีลมแทบจับ กนกวิภารีบบอกว่าไม่ต้องชวนตน แค่นึกก็ขนลุกแล้ว สู้ไปดูคอนเสิร์ตฟังเพลงคลาสสิกไม่ได้ มาลัยชักไม่พอใจต่อว่าทุกคนจนเป็นใบ้ไปโดยปริยาย

“นี่! อั๊วกับอากงลื้อน่ะโล้สำเภากันมาจากเมืองจีน ไม่ได้มากับพวกฝรั่งหัวแดง ไม่ให้อั๊วดูงิ้วแล้วจะให้ดูอะไร...ลืมอะไรก็ลืมไปเหอะ แต่อย่าลืมตัว บรรพบุรุษจะเสียใจ...อาตี๋ อาม่าง่วงนอนแล้ว จะไปนอนได้หรือยัง” มาลัยให้ชยุติพาไปส่งห้อง

ooooooo

อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 3 วันที่ 8 ม.ค.61

ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว บทประพันธ์โดย กราตร ศักตา
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว บทโทรทัศน์โดย ยิ่งยศ ปัญญา, สรรัตน์ จิรบวรวิสุทธิ์
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว กำกับการแสดงโดย ธนากร โปษยานนท์
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ผลิตโดย บริษัท ดู เอนเตอร์เทนเมนต์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ควบคุมการผลิตโดย ธัญญา-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ