อ่านละคร รักกันพัลวัน ตอนที่ 3 วันที่ 23 ต.ค.60

อ่านละคร รักกันพัลวัน ตอนที่ 3 วันที่ 23 ต.ค.60

ตุลยังคงเคลิ้มถึงฐานัทไม่เลิก แต่แล้วอารมณ์ก็ดับวูบเมื่อมนตรีมาบอกว่าแมตต์เรียกให้ไปพบ

ตุลบ่นว่าเรื่องอะไรอีกล่ะ เช้าพบกลางวันพบแล้วเย็นยังจะพบอีก มนตรีบอกว่าไม่รู้แต่ท่าทางอารมณ์ไม่ดี ฉะนั้นตุลต้องท่องคาถาที่ตนให้ไว้ตลอด คือ 1.ห้ามสบตา 2.ห้ามเถียง 3.ค่ะลูกเดียว

ตุลเข้าไปยืนมือประสานกันก้มหน้าตรงหน้าโต๊ะทำงานของแมตต์ พอเขาเงยหน้าก็ถามเป็นชุด

“เธอรู้จักพิมมี่ได้ยังไง ที่ไหน เมื่อไหร่ สนิทกันแค่ไหน กี่ปีแล้ว”



ตุลท่องคำเตือนของมนตรี ก้มหน้าตอบ “ค่ะ” แมตต์เสียงเข้มว่าถามตั้งกี่คำถามตอบได้ยังไงว่าค่ะ ถามเสียงเข้มว่า “เธอรู้จักพิมมี่ได้ยังไง!”

“เจอกันที่เมลเบิร์น 3 ปีที่แล้ว ตอนฉันได้ทุนเรียนที่ออสเตรเลีย ฉันเป็นบัดดี้ตอนเรียนดำน้ำกับพิมมี่ 3 อาทิตย์เลยสนิทกัน...ค่ะ”

แมตต์ถามว่าแค่ 3 อาทิตย์สนิทขนาดกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเลยหรือ ตุลเผลอถามฉุนๆว่าแล้วมันแปลกตรงไหน?

“มันไม่แปลกหรอกถ้าเธอเป็นผู้หญิง พิมมี่เป็นน้องสาวฉัน และเป็นกรรมการคนนึงของบลู แพลนเนต เธอรู้ใช่ไหมว่าพนักงานควรจะวางตัวกับผู้บริหารยังไง กรุณาให้เกียรติน้องฉันเหมือนเขาเป็นเจ้านายเธอคนนึง แล้วอย่าคิดอะไรเกินเลยกับน้องฉันเหมือนแองจี้เด็ดขาด ไม่งั้นเธอมีปัญหากับฉันแน่!!!”

แมตต์จ้องหน้าตุลอย่างเอาเรื่อง ตุลถอนใจเซ็ง...เซ็งกับความซวยที่ไม่จบไม่สิ้นสักที

บ่ายนี้ฐานัทเข้าออฟฟิศของเขา ถามพิงค์พนักงานในนั้นว่าแนนล่ะ? พิงค์บอกว่าออกไปตั้งนานแล้ว ได้ยินว่าลาครึ่งวัน ฐานัทจึงโทร.หาแนนอย่างร้อนใจ

ฝ่ายตุลกำลังสับสน ใจอยากไปทำงานกับฐานัทแต่แกล้งถามอโนมากับดารินทร์ว่าเอาไงดี ตนต้องให้คำตอบพี่นัท แล้วจะอ้างว่าไปไม่ได้เพราะอะไรดี เขาจะคิดไหมว่าตนเป็นพวกโลเล กลับไปกลับมา อโนมาบอกว่าให้บอกว่าติดธุระไปไม่ได้ ตุลสวนไปทันทีว่า

“ฉันไปได้!!!”

“น่านไง...” อโนมากับดารินทร์ร้องพร้อมกัน ดารินทร์ถามว่า “ตกลงคือแกว้อนต์?”

ตุลแก้เกี้ยวว่าไม่ใช่ตนว้อนต์คนเดียว พี่นัทเขาก็ว้อนต์ตน ไม่งั้นเขาไม่มาคะยั้นคะยอแถมพูดเต็มปากเต็มคำว่าอยากทำงานกับตน พูดไปพูดมาแล้วสรุปว่า

“พี่นัทเขาแบบว่าดีและเท่เกินกว่าฉันจะห้ามใจอ่ะ ฉันรู้ว่าเขาไม่มีทางเลือกฉัน แต่ฉันก็อยากไปเจอเขา”

อโนมากับดารินทร์ฟังแล้วได้แต่ถอนใจเฮือกใหญ่แล้วตุลก็โทรศัพท์ไปบอกฐานัทว่าตนเคลียร์งานได้แล้ว จะนัดให้ไปเจอเขาที่ไหนดี ปรากฏว่าฐานัทติดธุระนัดเป็นพรุ่งนี้จะเคลียร์คิวให้เลย วันนี้ไม่ว่างจริงๆ ตุลปิดโทรศัพท์หน้าจ๋อยผิดหวังอย่างแรง

ฝ่ายฐานัทถูกแนนงอนไม่รับโทรศัพท์ จึงจะซื้อกระเป๋าไปง้อ เจออโนมากำลังจะกลับเลยขอแรงไปช่วยเลือกกระเป๋าเป็นของขวัญให้แนนหน่อย บอกว่านี่ก็งอนกลับบ้านไปก่อนแล้วโทร.ไปก็ไม่รับสาย

อโนมาถามว่าพี่นัทนัดตุลไว้ไม่ใช่หรือ เขาบอกว่านัด แต่งานเข้าเรื่องกระเป๋าของแนนเลยต้องเลื่อนตุลไปเป็นพรุ่งนี้ ดารินทร์มาเจอถามว่ามีอะไรกันหรือ พออโนมาเล่าให้ฟัง ดารินทร์ก็ชงให้ตุลเสียบทันที บอกฐานัทว่าตุลเป็นกูรูเรื่องกระเป๋าเลยล่ะ ฐานัทเชื่อโทร.หาตุล นัดเจอกันเพื่อไปซื้อกระเป๋าให้แนน

ตุลเลือกกระเป๋าหลายใบ แต่ฐานัทติงว่าแบบไม่ใช่บ้าง สีไม่ถูกกับสีผิวของแนนบ้าง ในที่สุดทั้งสองก็เลือกได้กระเป๋าที่ใจตรงกัน ต่างหัวเราะออกมาพร้อมกันอย่างสบายใจ

ฐานัทสบายใจมากที่เลือกซื้อกระเป๋าให้แนนได้ ตุลติงว่ามันแพงไปหน่อยไหม

“แพงมาก...แต่มันคุ้มค่ากับรอยยิ้มของคนที่เรารักนะ”

ตุลฟังแล้วยิ่งรู้สึกชื่นชมประทับใจผู้ชายคนนี้มาก ฐานัทขอบใจที่ตุลมาช่วยเลือกกระเป๋าให้ ชวนกลับไปด้วยกันไหมจะไปส่ง

“ตุลนัดอโนกับดาไว้ พี่นัทไปเหอะ แล้วก็...ขอให้แนนเลิกงอนพี่นัทนะ”

“ขอบใจมากไอ้น้องชาย” ฐานัทโอบไหล่ตุลแมนๆ แต่ตุลแทบละลายกับสัมผัสของเขา...

เมื่อตุลไปพบอโนมากับดารินทร์ที่ร้านตามนัด มาถึงเห็นตุลนั่งเอาสองมือจับผ้าปิดหน้าอยู่เหมือนกำลังร้องไห้ สองสาวคุยกันว่าไม่น่าชงให้ฐานัทชวนตุลไปเลย ต่อไปจะไม่ยุ่งเรื่องตุลกับฐานัทอีกแล้ว

“อะไรของแกสองคนวะเนี่ย ฉันไม่ได้เป็นอะไร...ฉันไม่ได้ร้องไห้...ฉันเพิ่งล้างหน้ามาเว้ย” ตุลบอกว่า “ฉันไม่ได้เศร้า แต่โคตรมีความสุขต่างหาก พี่นัทเป็นผู้ชายที่ละเอียดอ่อนสุดๆ รู้ใจแฟนทุกอย่าง อกก็แน่นเปรี๊ยะ แถมลมหายใจยังกลิ่นคาราเมลหอมชื่นใจอีกอ่ะ...โอ๊ย...ปลื้มมมม...”

สองสาวอึ้ง ถามว่าอกแน่นเปรี๊ยะกับลมหายใจกลิ่นคาราเมลน่ะ มันยังไง?!

ตุลเล่าว่าจังหวะหนึ่งตนหยิบกระเป๋าไม่ถึง ฐานัทยืนซ้อนข้างหลังช่วยหยิบให้ ตนนิ่งงันเหมือนอยู่ในอ้อมแขน ของเขา เล่นเอาสองเพื่อนสาวพลอยกรี๊ดไปด้วย แล้วทำท่าให้ดูว่าแบบนี้ใช่ไหมโดยประกบตุลทั้งหน้าหลังหัวเราะกันคิกคัก

แมตต์เข้ามาสั่งกาแฟได้ยินเสียงกิ๊วก๊าวหันไปมอง เห็นสามสาวประกบกันแน่น เขามองอย่างรับไม่ได้ ตุล หัวเราะคิกคักถอยหนี วิ่งไปกระแทกหลังแมตต์อย่างจัง เธอหันมองรีบขอโทษ แมตต์ค่อยๆหันมา พอตุลเห็น
สีหน้าเขา เธอตัวเย็นวาบยืนทื่อเหมือนถูกแช่แข็งกับสายตาพิฆาตของเขา!

ooooooo

พนักงานและลูกค้าในร้านเค้กคิงดอมต่างหันมองแมตต์กับตุลเป็นตาเดียว เหมือนโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ ตุลเห็นคราบกาแฟที่หกรดเสื้อแมตต์ก็ยิ่งใจเสีย มองเขาหน้าจ๋อย แมตต์โกรธแต่พยายามข่ม

“สนุกมากไปไหม จริงๆเธอจะสนุกกับการควงผู้หญิงทีละ 2-3 คนมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน โดยเฉพาะในเวลาเลิกงานแบบนี้ แต่การกอดจูบกันในที่สาธารณะแถมทำคนอื่นเดือดร้อนแบบนี้มันเกินไปไหม ถ้าคนอื่นไม่ใช่ฉันจะเป็นยังไง ทำอะไรไม่คิดถึงตัวเองก็คิดถึงหน้าตาบริษัทบ้างสิ!!!”

ตุลโดนชุดใหญ่จนยืนอ้าปากค้าง แมตต์เอาถ้วยกาแฟไปโยนถังขยะแล้วออกไปอย่างมีอารมณ์ อโนมากับดารินทร์ถลาเข้ามาหาตุล ดารินทร์ถามว่า

“ใครวะตุล ด่าเป็นชุด”

“VP 3” ตุลพูดลอดไรฟัน อโนมาสงสัยว่าอะไร ตุลอธิบายว่า “แวมไพร์เบอร์ 3 เจ้านายฉันเอง ที่เคยเล่าให้พวกแกฟังไง ว่าบ้านนี้ผีดิบกันทั้งบ้าน ไล่ตั้งแต่เบอร์ 1 พ่อ เบอร์ 2 พี่ชาย ยันอีตา VP 3 นี่”

ดารินทร์ถามประชดว่าท่าทางเขาจะเอ็นดูตุลเป็นพิเศษนะ

“ไม่พิเศษได้ไง เขาเป็นแฟนเก่าแองจี้ แล้วฉันก็เคยชกเขาด้วย”

อโนมากับดารินทร์ฟังแล้วกลืนน้ำลายเอื๊อกที่ตุลต้องมาเจอกันอีก ทั้งสองมองหน้ากันแล้วถอนใจ

เมื่อแมตต์ไปพบโรสกับพิมมี่ที่ร้านอาหารตามนัด โรสถามว่าเสื้อไปโดนอะไรมา แมตต์บอกว่าเลอะกาแฟ เพื่อนทอมของพิมมี่ที่วิ่งไล่สาวๆจนชนตนกาแฟหกหมด

พิมมี่ถามว่าตุลหรือ แมตต์ยังอารมณ์ค้างย้อนถามว่า

“จะใครซะอีกล่ะ เดี๋ยวนี้สังคมที่นี่เปิดกว้างมากรึไงนะ ไปที่ไหนก็เจอพวกนี้”

โรสบอกว่าเห็นเขารวมตัวกันเป็นสมาคม มีกิจกรรมทำกันด้วย พิมมี่เสริมว่าเดี๋ยวนี้คนเปิดใจยอมรับกันมากขึ้น เขาเลยเปิดตัวคบกันอย่างเปิดเผย ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆเหมือนเมื่อก่อน

“แต่ถ้ารักกันแล้วไม่มีปัญหา ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน จะเกย์ ดี้ ทอมหรือจะเพศไหน พิมมี่ว่ามันก็ไม่สำคัญหรอกค่ะ”

“แหม...ออกตัวแรงขนาดนี้ แอบกิ๊กกั๊กกับทอมที่ไหนรึเปล่าเนี่ย” โรสแหย่ ทำให้แมตต์ยิ่งระแวง ชายหนุ่มมองน้องสาวอย่างค้นหาความจริง พิมมี่ทำไก๋ก้มดูเมนูทำไม่รู้ไม่ชี้

คืนนี้พิมมี่มองเครื่องสำอางครบชุดที่ฌอนฝากซื้อผูกโบสวยเป็นกิฟต์เซตที่วางบนโต๊ะในห้องนอนแล้วถอนใจ ถามป้ากลางที่เข้ามาว่า ผู้ชายที่ใช้ของแบบนี้เป็นคนแบบไหนกันแน่

ป้ากลางบอกว่าคงจะประเภทเห็นผู้หญิงเป็นได้แค่เพื่อน เอะใจถามว่า

“ว่าแต่พิมมี่ถามทำไม หน้าตากังวลแบบนี้ ผู้ชายคนนี้คงไม่ใช่ลูกค้าธรรมดามั้ง?” ป้ากลางหยั่งเชิง พิมมี่ได้แต่ยิ้มแหยๆ

รุ่งขึ้นพิมมี่เอาถุงใส่เครื่องสำอางที่จัดเป็นเซตไปให้ฌอนที่นั่งทำงานกับโน้ตบุ๊กที่โต๊ะ เขาขอบใจบอกว่าพรุ่งนี้จะให้คุณหน่อยทำเช็คให้ พิมมี่รับคำแล้วตัดสินใจคุยหยั่งเชิง

“จริงๆแล้วถ้าแต่งหน้าขนาดนี้ ต้องทำความสะอาดกับบำรุงผิวดีๆนะคะไม่งั้นผิวจะแย่เอา พี่ฌอนมีพวกคลีนเซอร์ ครีมบำรุง แล้วก็ครีมมาส์กหน้ารึยังคะ”

“ยัง จัดมาชุดนึงเลย รบกวนห่อเป็นของขวัญด้วย พรุ่งจะเอาไปให้เพื่อน” พิมมี่โล่งใจรับปากว่าจะทำให้สวยเลย “เดี๋ยว...พิมมี่ รบกวนแนบการ์ดถึงมิสเตอร์สตีฟให้พี่ด้วยนะ” พิมมี่ชะงักถามว่ามิสเตอร์สตีฟหรือภรรยา?

“สตีฟจ้ะ เพื่อนสนิทพี่ เขาใช้เอง”

พิมมี่นึกระแวงอีก ถามตัวเองว่ายังไม่พ้นเกณฑ์ใช่ไหมเนี่ย ป้ากลางดูอยู่มุมหนึ่ง หัวเราะหึๆ พึมพำว่า อย่างนี้นี่เอง...แล้วเดินจงกรมขึ้นบ้านไป

ooooooo

ฐานัทกลับบ้าน นั่งชื่นชมของขวัญที่ซื้อให้แนนรอเธออยู่ที่โซฟา จนตีหนึ่งจึงเห็นเธอกลับมา พอเธอเปิดประตูเข้ามาเมาๆ เขาก็เปิดไฟยืนกลางห้องยื่นของขวัญให้พร้อมคำอวยพร

“แฮปปี้เบิร์ธเดย์จ้ะแนน”

แนนแทบสร่างเมา พูดแก้เกี้ยวว่านึกว่าเขาไปทำงานเลยออกไปฉลองวันเกิดย้อนหลังกับเพื่อนๆ ขอโทษที่กลับดึกไปหน่อย ฐานัทบอกไม่เป็นไร บอกให้แกะของขวัญดูซิว่าชอบไหม

แนนแกะดูเห็นเป็นกระเป๋าที่ตัวเองอยากได้ก็ดีใจ

“รุ่นที่แนนอยากได้เป๊ะเลยค่ะ สีก็ใช่ ขอบคุณพี่นัทมากนะคะที่รู้ใจแนน แต่ว่า...แนนได้มาแล้ว” แนนวางกระเป๋าที่ฐานัทซื้อให้ไว้ข้างตัวแล้วหยิบกระเป๋าที่นภซื้อให้วันนี้ออกมาดูอย่างชื่นชม บอกเขาว่า

“ใบของแนนมันรัน Serial number 9999 ด้านในด้วย เห็นไหมคะ พี่นัทเอาของพี่นัทไปเปลี่ยนใบอื่นไหม ถือไปไหนคนเขาก็ไม่รู้หรอกค่ะว่าแนนมีสองใบ เอาเป็นรุ่นอื่นสีอื่นก็ได้ พี่นัทดูเอาก็แล้วกัน พี่นัทรู้อยู่แล้วนี่คะว่าแนนชอบแบบไหน”

แนนเอากระเป๋าของนภใส่ถุงแล้วหยิบกระเป๋าถือลุกไป ขณะนั้นโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น เธอหยิบดู เป็นไลน์ที่นภส่งภาพเซลฟี่ตัวเองนั่งดริงก์อิงแอบกับแนนมาให้ ตามด้วยข้อความ “ฝันถึงเฮียด้วยนะ”

แนนชำเลืองดูไม่เห็นฐานัทสนใจก็เดินเข้าห้องไป ส่วนฐานัทนั่งจ๋อยที่โซฟามองกระเป๋าใบละแปดหมื่น ที่อุตส่าห์ไปซื้อมาให้ แต่เธอไม่เห็นค่าเลย...

เช้านี้ขณะแนนไปเข้าห้องน้ำ มือถือเธอมีไลน์เข้าหลายครั้ง ฐานัทที่ยังนอนอยู่เกรงจะมีเรื่องด่วนจึงเปิดดู
ที่หน้าจอมีข้อความจาก “เสี่ยนภ” ว่า “หลับสบายไหมคนดี” ฐานัทสงสัยว่าใครเป็นคนส่งข้อความมา? เขานึกถึงเมื่อเดือนก่อน เขาก็เห็นข้อความในมือถือของแนนว่า

“ว่างอยู่รึเปล่าจ๊ะ โทร.หาเฮียหน่อย” จาก “เสี่ยนภ”

วันนั้นฐานัทถามว่าใครคือเสี่ยนภ แนนบอกว่าลูกค้าใหม่ และสองอาทิตย์ที่ผ่านมานี่เอง เสี่ยนภก็ฝากดอกไม้ราคาแพงลิบมาให้แนน ยังความแคลงใจแก่ฐานัทมาก

ขณะฐานัทคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา มือถือแนนก็ดังขึ้นอีก เขาตัดสินใจยกขึ้นอ่าน เป็นข้อความจาก “เสี่ยนภ” อีกแล้ว “ฝันถึงเฮียรึเปล่า เมื่อคืนเฮียมีความสุข มากจนเก็บเอาแนนไปฝันเลยนะ”

ฐานัทช็อก! เมื่อไปถึงบริษัทแนนไม่พอใจที่เขาอ่านข้อความในไลน์ของตน ถามว่าเขามีปัญหาอะไร ฐานัทบอกว่าอยากรู้ว่าเสี่ยนภเป็นใคร

แนนยืนกรานว่าเป็นลูกค้า พอถูกซักแนนก็ทำเป็นเสียงแข็งหาเรื่องกลบเกลื่อนว่าถึงเขาจะไลน์มากี่ครั้ง ตนก็ยืนยันว่าเขาเป็นลูกค้า พาลว่า “หรือพี่นัทจะคิดว่าเขาเป็นกิ๊กแนนก็ตามใจ!!!”

แนนสะบัดไปทันที ฐานัทเรียกง้อ แต่เธอไม่แยแส เขาได้แต่ถอนใจ

เหตุการณ์นี้อยู่ในสายตาของอโนมากับดารินทร์ที่นั่งจิบกาแฟกินเค้กอยู่ สองสาวสบตากันเป็นนัย

ooooooo

แมตต์อ่านเอกสารที่เลขาเอามาให้แล้วบอกแบรดว่า บัญชีมีการตบแต่ง ตัวเลขเงินหายไปเป็นล้าน จับได้ถึงกลโกงของทักษะที่ทำเป็นขบวนการ บอกแบรดว่าเราต้องทำอะไรมากกว่าแค่ไล่เขาออก

ที่แท้แบรดรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว แต่เขาต้องการให้แมตต์ค้นพบด้วยตัวเอง จึงให้เขามาทำตรงนี้ ย้ำว่า

“ฉันไม่ไว้ใจใครนอกจากคนในครอบครัว หน้าที่ของแกก็ต้องคิด อย่าให้เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นอีก”

“สรุปว่าพ่อรู้ทุกอย่างหมดแล้ว แล้วพ่อปล่อยให้ผมอ่านเอกสารเป็นร้อยๆหน้าทำไม แทนที่จะบอกผมแค่ห้านาทีก็จบ” แมตต์โกรธจัด

“ทำธุรกิจมันมันง่ายขนาดนั้นเหรอ วันข้างหน้าแกยังต้องเจออะไรอีกเยอะ หัดทำอะไรยากๆเข้าไว้ ยิ่งยากเท่าไหร่ แกก็จะยิ่งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น แกร่งเหมือนที่ฉันแกร่ง เป็นเหมือนที่ฉันเป็น”

“ผมอาจจะแกร่งอย่างพ่อแกร่งได้สักวัน แต่จะไม่มีวันเป็นอย่างที่พ่อเป็น...ไม่มีวัน”

แมตต์มองพ่อนิ่งก่อนจะเดินไป แบรดมองตามไปอย่างเจ็บปวด

แมตต์ทำงานอย่างถึงลูกถึงคน เขาซึมลึกถึงงานรูปธรรมเพื่อรู้ปัญหาและรู้งาน ทำเอามนตรีที่ทำงานฉาบฉวยต่างตื่นตัวกลัวกันหัวหด เขาดูการลำเลียงอาหารจากคลังอาหารสัตว์ ถามมนตรีว่า

“หลังคีปเปอร์ให้อาหารสัตว์เสร็จแล้ว ต้องทำอะไรต่อครับ”

“เรามีหัวหน้าคีปเปอร์ที่จะอธิบายงานในส่วนนี้ให้คุณแมตต์เข้าใจได้เคลียร์ที่สุด” พูดพลางผายมือไปที่ตุล “นี่เลยครับตุลญาณา”

มนตรีโยนเผือกร้อนให้ตุล ทำเอาตุลเหวอ แอบมองมนตรีตาขวาง จำใจต้องเดินนำแมตต์ไป

แล้วก็มีปัญหาให้ปวดหัวอีกเมื่อชาติมารายงานว่านักท่องเที่ยวกับเด็กๆมากันเยอะมาก มนตรีถามโตมรว่า รถกอล์ฟเรามีพอไหม โตมรบอกว่ามีเหลือเฟือ จักรยานก็เหลือแหล่ รถรางก็มีแต่ใช้ไม่ได้เพราะคนขับสไตรค์หมด ชาติบอกว่าตอนนี้วีไอพีจากกรุงเทพฯก็กำลังจะมาถึงแล้ว

นลินีหน้าตาตื่นรายงานแบรดว่า พนักงานแผนกเครื่องยนต์สไตรค์ไม่มาทำงาน วันนี้ท่านรัฐมนตรีและผู้ติดตามจะมาดูงานที่นี่ เหลือเวลาอีก 10 นาทีจะทำยังไงดี

มนูญที่เป็นหัวหน้าคนงานฝ่ายเครื่องจักรมาเจรจากับแมตต์เรียกร้องเงื่อนไขการทำงานหลายข้อ แมตต์ยินดีรับฟังแต่ตอนนี้ขอให้ลูกน้องเขากลับเข้าทำงานก่อนเพราะผู้ใหญ่จะมาดูงานที่นี่อีกไม่กี่นาทีนี้แล้ว แต่มนูญอิดออดกลัวเรื่องจะเงียบหาย เจรจาจนมนูญจะโทร.เรียกพนักงาน มนตรีได้รับโทรศัพท์บอกมนูญว่าไม่ต้องโทร.แล้ว ท่านรัฐมนตรีมาถึงแล้ว!

แมตต์พยายามหาทางแก้ปัญหา ถามว่าใครขับรถรางได้บ้าง โตมรบอกว่าตนขับได้ในโซนคิด แต่ถ้าไต่เนินขึ้นไปโซนนักล่าไม่แม่นเรื่องตีโค้ง แมตต์ร้อนใจ ถามว่าไม่มีใครขับได้เลยหรือ

“ฉันขับได้ ฉันเคยหัดขับขึ้นเขาตอนฝึกงานปีสอง”

ขณะนั้นเอง แบรดกับฌอนตรงมาที่แมตต์ พูดเสียงต่ำอย่างกดดันว่า

“ฉันจะไปรับหน้าท่านรัฐมนตรีไว้ก่อน แกต้องแก้ปัญหาให้เรียบร้อยก่อนที่ฉันจะพาท่านมาที่นี่ เข้าใจไหม”

แมตต์เครียดหนัก แบรดเดินนำคณะของรัฐมนตรีมาพอดี แนะนำแมตต์ว่าเป็นลูกชายคนเล็ก รัฐมนตรีเสนอว่ามากันเยอะ เรานั่งรถรางไปด้วยกันเลยดีไหม

“พอดีสัปดาห์หน้าเราจะจัดแคมเปญ ‘BIKE FOR WILDLIFE’ ขี่จักรยานชมสวนสัตว์เพื่อหารายได้สมทบทุนคุ้มครองสัตว์ป่าครับท่าน วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ท่านและคณะให้เกียรติมาถึงที่นี่ ผมขอความกรุณาเชิญท่านเป็นประธานนำร่องเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการนี้เลยนะครับ”

รัฐมนตรีตอบรับด้วยความยินดี ชวนชาวคณะมาออกกำลังกายด้วยกัน ทุกคนตอบรับยิ้มแย้มยินดี แมตต์ หันไปพยักหน้าให้ตุลที่ยืนอยู่ด้านหลังเอาเสื้อยืดและหมวกออกมาแจกทุกคน กลายเป็นขบวนจักรยานขี่ตามกัน ไปชมสวนสัตว์อย่างคึกคัก

แบรดกับฌอนยืนดูการแก้ปัญหาของแมตต์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ระหว่างนั้นดารินทร์กับอโนมาที่เห็นพฤติกรรมของแนนที่คบภับนภ ก็โทรศัพท์บอกตุลหวังจะให้เข้ามาเสียบทำคะแนน แต่ตุลกำลังเครียดกับงาน ซ้ำยังถูกแมตต์ดุว่า

“คุยอะไรกันไร้สาระ!! เธอต้องปั่นจักรยานประกบท่านรัฐมนตรีเพื่อตอบคำถามท่าน ชักช้าอยู่ได้ ทุกคนรออยู่ไม่เห็นเหรอ”

“แค่นี้นะ” ตุลรีบตัดสายบอกแมตต์ว่า “ไปเดี๋ยวนี้ค่ะ” แล้วรีบขี่จักรยานไปกับขบวน

ผลคืองานนี้เป็นที่ชื่นชมของรัฐมนตรีและคณะเป็นอย่างมาก แมตต์และทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสแช่มชื่นกันถ้วนหน้า

ooooooo

หลังจากแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าไปได้อย่างดีแล้ว แมตต์เรียกมนูญไปคุยเรื่องข้อเสนอที่พนักงานขับรถรางเรียกร้อง เขารับพิจารณาแก้ไขและให้ตามความเป็นจริง แต่ที่ยังแก้ไขไม่ได้ก็จะรับไปพิจารณาต่อไป

อ่านละคร รักกันพัลวัน ตอนที่ 3 วันที่ 23 ต.ค.60

ละครเรื่อง รักกันพัลวัน บทประพันธ์โดย เชอริณ
ละครเรื่อง รักกันพัลวัน บทโทรทัศน์โดย ปารดา
ละครเรื่อง รักกันพัลวัน กำกับการแสดงโดย ป้าแจ๋ว ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครเรื่อง รักกันพัลวัน ผลิตโดย บริษัท ฟีล กู๊ด เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง รักกันพัลวัน วัน-เวลาออกอากาศ: ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.15 น.
ติดตามชมละครเรื่อง รักกันพัลวัน ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ