อ่านละคร รักกันพัลวัน ตอนที่ 1 วันที่ 17 ต.ค.60

อ่านละคร รักกันพัลวัน ตอนที่ 1 วันที่ 17 ต.ค.60

ที่ The Great Barrier Reef, Queensland Australia เมธากวิน หรือแมตต์ สัตวแพทย์หนุ่มลูกครึ่งไทยออสเตรเลียวัย 25 หล่อละลายใจสาว กำลังดำน้ำอยู่ใต้ท้องทะเล

แมตต์ดำน้ำดูชีวิตสัตว์ใต้ท้องทะเลและปะการังสวยงามอย่างมีความสุข เขาดูปลากระเบนนกอย่างตื่นตาตื่นใจ ตื่นเต้นหวาดเสียวกับฉลามนานาพันธุ์ที่แหวกว่ายอยู่รอบตัวเขาและนักดำน้ำอื่นๆ

เวลาเดียวกัน ที่ใต้ท้องทะเลหมู่เกาะสิมิลัน ตุลญาณา หรือตุล สาวหล่อมาดเท่วัย 23 ปี จบคณะสัตวบาล ก็กำลังดำน้ำแหวกว่ายหยอกล้ออยู่กับฝูงปลาน้อยใหญ่และปะการังสีสันสดใสโดยเฉพาะปลาการ์ตูนตัวน้อยที่น่ารักชวนหลงใหล เธอทักทายฝูงปลาเหล่านั้นเหมือนเพื่อนเก่าที่มาเจอกัน



พอตุลโผล่พรวดขึ้นผิวน้ำว่ายมาข้างเรือ บัดดี้เจ ที่ขึ้นเรือมาก่อนแล้วก็ส่งมือช่วยดึงตุลขึ้นมาบนเรือ ตุลขึ้นเรือไม่ทันได้นั่ง มะปรางกับเพื่อนๆก็ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด กรูกันเข้ามาเอาผ้าซับหน้า เช็ดผมและเสิร์ฟน้ำให้

“พี่ตุลเก่งจังเลยค่ะ ทั้งเท่ทั้งเก่ง” เพื่อนมะปรางปลื้มมาก ฝ่ายมะปรางสาวน้อยหน้าใสขี้อ้อนที่ตุลเอ็นดูมากถือแก้วแชมเปญแทรกเข้ามากลางวงแซะเพื่อนๆที่ห้อมล้อมตุลออกไปพลางปราม

“หยุดดด...อย่าแตะต้องคนมีเจ้าของ!!! ชื่นชม แทะโลม จิกตาอ่อยได้ แต่...ห้ามแตะ...เครื่องดื่มเย็นๆค่ะพี่ตุล” มะปรางส่งแก้วแชมเปญให้ตุล

“เพิ่งขึ้นจากน้ำ งดแอลกอฮอล์ รอให้ถึงฝั่งก่อน ไว้มื้อเย็นนะ พระอาทิตย์ตกโรแมนติก” ตุลปฏิเสธอย่างอ่อนโยนมองตาหวานเชื่อม มะปรางโผเข้าหอมแก้มตุลฟอดใหญ่ ตุลหอมกลับ ท่ามกลางเสียงกรี๊ดสยิวกิ้วของเพื่อนๆ

ที่ The Great Barrier Reef เรือลอยลำอยู่กลางทะเล แมตต์โผล่ขึ้นผิวน้ำ สะบัดผมน้ำกระเซ็นสุดเท่ ส่งสัญญาณให้บัดดี้ที่ขึ้นเรือก่อนแล้วมาเกาะบันไดเตรียมจะไต่ขึ้นเรือ แต่คลื่นซัดเรือโคลง แมตต์ลื่นหลุดจากบันไดทำท่าจะหงายตกทะเล ทันใดก็มีมือของชายหนุ่มยื่นมาคว้าแขนแมตต์ไว้ทัน

ฌอน ชายหนุ่มวัย 30 ในชุดลำลองหล่อเนี้ยบนั่นเอง ฌอนดึงมือแมตต์ขึ้นมาบนเรือ

“ขอบใจ” แมตต์ดึงมือออกจากฌอน เดินไปถอดชุด ไม่ได้สนใจฌอนอีกเลย

“นี่น่าจะเป็นทริปดำน้ำทริปสุดท้ายของนายนะปีนี้” ฌอนเอ่ยขึ้น

“อีกสองอาทิตย์ฉันจะไป Gordon Rock กาลาปากอส” แมตต์พูดหน้าตาเฉย

“หมดเวลาสนุกแล้วแมตต์”

“ทำไมนายต้องมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตฉันด้วย” แมตต์เสียงขุ่น

“ไว้รอถามพ่อสิว่าทำไม” ฌอนตอบมองหน้ากวนๆ แล้วเดินหนีไป แมตต์มองไม่พอใจที่ฌอนเอาพ่อมาอ้าง
ฌอนมาเป็นครอบครัวเดียวกับแมตต์เพราะหลังจากแม่ของแมตต์เสียชีวิต พ่อเขาคือมิสเตอร์แบรด เจนนิงส์ ก็ได้เจนเป็นภรรยาใหม่ มีฌอนเป็นลูกติดพ่วงมาด้วยนั่นเอง

ooooooo

ตะวันคล้อยบ่ายจนเกือบเย็นแล้ว...ตุลกับมะปรางและเพื่อนๆสี่ห้าคนไปห้องอาหารในรีสอร์ต มะปรางถือเค้กปักเทียน 24 เล่มเข้ามา พลันสาวๆเพื่อนมะปรางก็ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ขึ้น พอเพลงจบก็พากันร้อง

“เซอร์ไพรส์!!!”

“Happy birthday!!! ค่ะพี่ตุล” มะปรางอวยพรเสียงใส

“ไม่คิดว่ามะปรางจะจำวันเกิดพี่ได้” ตุลซึ้งจนน้ำตาคลอ ก้มลงเป่าเทียนดับพึ่บ

“ที่จัดทริปดำน้ำให้พี่ตุลที่นี่ก็เพราะจะจัดเบิร์ธเดย์เซอร์ไพรส์ให้ที่นี่ล่ะค่ะ” มะปรางเอ่ยปลื้ม แล้วทุกคนก็หยิบแชมเปญจากถาดที่บริกร ชูแก้ว ร้องพร้อมกัน “เชียร์ส!!!”

มะปรางโผเข้าหอมแก้มตุล สาวๆขยับจะเข้าไปหอมบ้าง ตุลมองหน้ามะปรางอย่างเกรงใจ มะปรางพูดอย่างใจกว้างว่า

“อะ...วันนี้เป็นวันพิเศษ ฉันอนุญาตให้พวกแกหอมพี่ตุลก็ได้”

สิ้นเสียงมะปราง เพื่อนๆต่างกรูกันเข้าไปหอมแก้มตุล ตุลปลื้มมาก ชีวิตจะป๊อปอะไรขนาดนี้...

ค่ำวันเดียวกัน ที่โต๊ะอาหารในคฤหาสน์เจนนิงส์ที่เมลเบิร์น ออสเตรเลีย...แบรดผู้เป็นพ่อนั่งที่หัวโต๊ะ เจนแม่ของฌอนนั่งติดกับแบรดทางขวามือ แมตต์นั่งทางซ้ายตามด้วยฌอน ทุกคนนั่งกินกันเงียบๆอย่างไร้อารมณ์ แล้วแบรดก็เอ่ยกับแมตต์เป็นการเป็นงานว่า

“ฉันให้เลขาฯจองตั๋วกลับเมืองไทยให้แล้ว แกต้องกลับไปเรียนรู้งานของทักษะ”

แมตต์ถอนใจเฮือกใหญ่ติงว่าทักษะทำงานดีอยู่แล้วก็ให้เขาทำต่อไป ถูกแบรดเสียงดังใส่ว่า

“แต่เขาไม่ใช่เจ้าของ แล้วฉันก็ไม่เข้าใจ แกจะถ่วงเวลาทำไม ยังไงแกก็ต้องกลับไปทำงานที่นั่น”

“ผมไม่ชอบงานบริหาร ผมอยากดำน้ำ อยากทำตามที่เรียนมา”

“แกเลือกได้ ถ้าแกเป็นคนอื่น ไม่ใช่คนตระกูลเจนนิงส์!! คนบ้านนี้ทำธุรกิจ เงินที่ส่งแกเรียนจนจบโทก็เพื่อให้แกกลับมาทำงานที่ JN GROUP แกจะทำตัวเป็นศิลปินลอยไปลอยมาเหมือนแม่แกไม่ได้”

“อย่าแตะต้องแม่ผม!!”

“ใจเย็นๆค่ะ” เจนแตะมือแบรดเบาๆ “ที่จริงแมตต์ก็เพิ่งจบไม่นานอาจจะอยากเดินทาง อยากค้นหาตัวเอง”

“คนอย่างเมธากวิน เจนนิงส์ ไม่ต้องค้นหา ทุกอย่างเตรียมไว้รอเขาอยู่แล้ว” แบรดหันมองแมตต์ “แกควรจะขอบคุณแม่เขานะที่พยายามเข้าใจแกตลอด”

“แม่ผมชื่อทิชา มาดาม...” แมตต์หยุดมองไปที่เจน แล้วตวัดสายตาไปที่ฌอนบอกว่า “เป็นแม่ของผู้ชายคนนั้น พ่อสับสนอะไรครับ” พลางลุกขึ้นเตรียมจะออกจากโต๊ะ ทำให้ผ้าเช็ดปากที่วางบนตักหล่นพื้น เจนหน้านิ่ง ฌอนโกรธแทนแม่ เอ่ยขึ้นว่า

“ตามมารยาทแล้วนายไม่ควรลุกจากโต๊ะทั้งที่ของหวานยังไม่เสิร์ฟ หรือถ้าทนไม่ได้ก็ควรจะเก็บผ้าเช็ดปากที่พื้นขึ้นมาวางอย่างสุภาพ”

แมตต์มองฌอนขวับแล้วก้มหยิบผ้าขึ้นมาพับเรียบร้อยแต่แล้วก็โยนผ้าลงบนโต๊ะตรงหน้าฌอนก่อนผละไป

“เก็บเสื้อผ้า อาทิตย์หน้าเตรียมกลับเมืองไทย!!!” แบรดเสียงเข้มตามหลัง แมตต์หยุดนิดหนึ่งแล้วเดินออกไป ทิ้งให้ทั้งสามอึ้ง มองอย่างหนักใจ

ooooooo

ที่ร้านอาหารในรีสอร์ต ตุลดื่มจนเริ่มมึนท่ามกลางเสียงเชียร์ของมะปรางกับเพื่อนๆ ตุลบ่นเสียงลิ้นไก่สั้นว่าให้ตนซดอยู่คนเดียว มึนแล้วนะเนี่ย

“อยากให้มึนค่ะ เจอเซอร์ไพรส์อีก 3 ดอกจะได้รับไหว” มะปรางฉอเลาะ ตุลถามว่ายังมีอะไรอีก ลองว่ามาซิ ถ้าไม่เซอร์ไพรส์ละก็...คืนนี้ทำโทษหนักนะ

ขณะนั้นเอง เจเดินยิ้มกริ่มเข้ามา ตุลถามว่าเอาเรือมาคืนโรงแรมหรือ มะปรางรีบบอกว่าเจเป็นเจ้าของเรือ นำเข้าเรือสปีดโบ๊ตกับพ่อเขา ตุลขอโทษบ่นว่าแล้วไม่บอกกันก่อน ถามมะปรางว่า

“แล้วเซอร์ไพรส์ที่ 2 ว่ามา ชักตื่นเต้นแล้ว”

“มะปรางขอเลิกกับพี่ตุลค่ะ” มะปรางยิ้มหวาน

ตุลชะงักอึ้งไปอึดใจแล้วหัวเราะร่า เดาว่าเซอร์ไพรส์ที่สามมะปรางจะบอกว่ามะปรางอำพี่ตุลเล่นใช่ไหม หัวเราะอารมณ์ดีถามว่า ใช่ไหม รู้ทันน่า...แต่แล้วก็ชะงักกึกเมื่อมะปรางพูดขรึมว่า

“เปล่าค่ะ มะปรางจะเลิกกับพี่ตุลจริงๆ เพราะเซอร์ไพรส์ที่ 3 คือมะปรางกับพี่เจเราคบกันเป็นแฟนแล้วค่ะ มะปรางไม่อยากทำร้ายจิตใจพี่ตุลเกินไป เลยขอพี่เจจัดงานเลี้ยงสั่งลาพี่ตุลก่อน ไม่ว่ากันนะคะ...เพราะหล่อลากดินอย่างพี่ตุลเป็นโสดไม่นานหรอกค่ะ เชื่อสิ มะปรางไปก่อนนะคะ” แล้วชวนเพื่อน “ไปพวกแก ฉลองปาร์ตี้สละโสดกัน”

พูดจบมะปรางก็ควงแขนซบเจออกไป ตุลชาไปทั้งตัวแทบหายเมา พึมพำเสียงแผ่วโผย...

“ไม่จริง...ไม่จริง...ไม่จริง...”

ooooooo

จนเวลาผ่านไป 1 อาทิตย์แล้ว ตุลหลับตาปี๋โผเข้ามาร้องโหยหวนว่า ไม่จริง...ไม่จริง บอกว่าที่แท้ตนฝันไป
ถูกอโนมากับดารินทร์ในชุดจะไปทำงานบอกว่า แกไม่ได้ฝัน กระนั้นตุลก็ยังพึมพำไม่จริง...ไม่จริง...จนสองสาวต้องร้องบอกเสียงดังว่า

“จริง!!!” แล้วอโนมาก็ทบทวนให้ฟังว่า “แกถูกยัยมะปรางหักอกที่สิมิลัน แล้วกลับมานอนครวญครางที่เชียงใหม่ 7 วัน 7 คืนแล้ว”

“ที่จริงแกน่าจะชินได้แล้วนะ ไม่ใช่ถูกผู้หญิงทิ้งครั้งแรกซะที่ไหน เจอไป 3 ครั้งแล้วนี่” ดารินทร์เสริม ตุลยิ่งคร่ำครวญ ถามว่าตนทำผิดอะไร ทำไมต้องเป็นตน ถามเพื่อนทั้งสองว่า

“แกรู้ไหมว่าอกหักรักคุดติดกันสามปีมันเป็นยังไงมันเจ็บแค่ไหน ฉันทนไม่ได้ ฉันอยู่ไม่ด้ายยยย”

อโนมาถามว่าแล้วจะทำยังไง ตุลบอกว่าจะฆ่าตัวตาย ดารินทร์ติงว่าปืนก็ไม่มี จะเอามีดเสียบพุงหรือ กว่าจะตายทรมานน่าดู ตุลเปลี่ยนเป็นจะเอาผ้าปูที่นอนผูกคอตาย

อโนมากับดารินทร์บรรยายสภาพศพที่ลิ้นจุกปากน่าสยดสยอง เตือนว่าถึงตัวเองจะตายแต่ก็ควรเห็นแก่หน้าตาพ่อแม่บ้าง ตุลเลยจะกินยาตาย ดารินทร์บอกว่าน้ำลายฟูมปากยิ่งทุเรศไปใหญ่

“แล้วแกจะให้ฉันทำยังไง มันทรมานนะเว้ย ฉันไม่อยากทรมานอีกต่อไปแล้ว ฉัน...ฉันจะโดดตึกตาย” พูดจบก็พุ่งออกไปที่ระเบียง อโนมากับดารินทร์ตกใจพรวดตามออกไป

ตุลหันกลับมองเพื่อนทั้งสอง ฝากลาพ่อแม่ เพื่อนฝูงอีกเป็นโขยง อโนมารับปากจะบอกให้ตุลบอกทั้งสองว่าอย่าห้าม ยังไงตนก็โดดแน่เพราะตัดสินใจแล้ว

“เอาที่สบายใจเลย” ดารินทร์ตามใจ ตุลทำท่าจะโดดไม่ได้ยินเพื่อนห้ามก็หันมาถามว่า

“พวกแกไม่คิดจะห้ามฉันเลยรึวะ”

อโนมาบอกว่าทีแรกก็คิดจะห้าม แต่เห็นตึกสูงแค่ 2 ชั้นโดดไปก็คงไม่ตาย อาจจะแค่ขาหัก ปอดฉีก หรือไม่ก็เป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต ตุลทำเชิดบอกว่าตนไม่กลัวความสูง ไม่กลัวความเจ็บปวด ไม่กลัวตาย

ดารินทร์รู้จุดอ่อนของตุลว่ากลัวจิ้งจก ร้องบอกว่ามันก็เกาะขาอยู่นั่น

ได้ผล! ตุลตกใจร้องกรี๊ดสะบัดขาเร่าๆจะเอาจิ้งจกออกเลยเสียหลักโงนเงนทำท่าจะตกไปจริงๆ อโนมากับดารินทร์พุ่งเข้าไปคว้าตัวดึงเข้ามาในระเบียงร่วงลงมานอนกองกับพื้น

หล่นลงมากองทับกัน ตุลไม่สนใจลุกพรวดมองหาจิ้งจก อโนมากับดารินทร์หัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง ตุลจึงรู้ว่าถูกหลอก ทั้งโกรธทั้งอายระเบิดอารมณ์ใส่ทันที

“พวกแกเห็นความทุกข์ของฉันเป็นเรื่องน่าขำเหรอ!! เรื่องอกหักหัวปีท้ายปีของฉันเป็นเรื่องน่าหัวเราะมากใช่ไหม!!!” ว่าแล้วลุกตะบึงตะบอนเข้าข้างใน ดารินทร์กับอโนมารีบจ้ำตาม

“เปล่านะเว้ย พวกฉันเห็นใจนะ คิดหัวจะแตกอยู่เนี่ยว่าทำไมทอมหล่อสุดติ่งอย่างแกถึงถูกผู้หญิงทิ้ง ทั้งๆ ที่พวกนั้นเป็นฝ่ายมาชอบแกก่อน” ดารินทร์ย้ำ

นึกถึงอดีตสมัยเรียน ม.ต้นในโรงเรียนหญิงล้วน ตุลในชุดกีฬาถือลูกบาสเล็งไปที่แป้น ท่าเท่ระเบิดจนเพื่อนนักเรียนมองกันตาเป็นประกาย ในนั้นมีอโนมาและดารินทร์อยู่ด้วย เมื่อเรียน ม.ปลายลงแข่งวิ่งผลัดก็รับจากไม้สามวิ่งเข้าเส้นชัยอย่างเท่อีก นักเรียนหญิงก็ยิ่งพากันคลั่งไคล้ จนตุลเองก็ทึ่ง

เวลานั้นมีฮานะลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นได้ใจจากตุล จนคนอื่นๆพากันหัวใจสลาย

แต่น่าเสียดาย เมื่อเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยฮานะไปเรียนต่อและแต่งงานกับฝรั่ง เมื่อขึ้นปี 2 ตุลได้ทุนไปเรียนที่เมลเบิร์น แองจี้ก็มาปลื้มควงกันอยู่เป็นปี สุดท้ายรักแท้ก็แพ้ระยะทาง บอกเลิกกันผ่านเฟซบุ๊ก

“แต่แกเป็นโสดไม่ถึง 3 ชั่วโมง ยัยมะปรางก็ตามเกาะแกยังกะเหาฉลาม” อโนมาทบทวน

“ยัยมะปรางดาวนิเทศทำหนุ่มทั้งมหาวิทยาลัยอกหักเพราะมาชอบสาวหล่ออย่างแก” ดารินทร์เสริม แล้วอโนมาก็ตบท้ายว่าแต่แล้วมะปรางก็ทิ้งไปอีก ทำให้ตุลอกหัก 3 ปีซ้อน ตุลหงุดหงิดถามว่าจะมารื้อฟื้นทำไมให้มันเจ็บ

“ก็รู้ พวกฉันถึงอยากจะถามแกไงว่าแกจะทนเจ็บไปอีกกี่ครั้ง?” ดารินทร์ถาม

“จริงสิ...ในเมื่อปัญหามันอยู่ที่ผู้หญิงใจโลเลพวกนั้น ฉันก็ต้องตัดต้นตอของปัญหา ต่อไปนี้ฉันจะไม่มีวันยอมเจ็บเพราะผู้หญิงหน้าไหนอีกเป็นอันขาด”

อโนมาถามว่าจะไปบวชชีหรือ ตุลบอกว่าไม่ ดารินทร์ถามว่าหรือจะเป็นเกย์

“ฉันจะเป็นผู้หญิงเต็มตัว ฉันจะมีรักเดียวใจเดียวกับผู้ชายคนเดียวต่างหาก!!!” ตุลประกาศกร้าว

“หา!!” สองสาวร้องราวกับถูกผีหลอกกลางวันแสกๆ

ooooooo

ตุลเรียนจบคณะสัตวบาลและมาทำงานอยู่ที่สวนสัตว์ Blue Planet มีเพื่อนร่วมงานคือโตมรหนุ่มวัย 23 ปีที่หน้าตาพอไปวัดไปวาได้ แต่ตัวเองมั่นใจว่าหล่อเกาหลี

โตมรแอบชอบตุล พอรู้ว่าตุลจะเปลี่ยนมาเป็นหญิงก็ไม่อยากเชื่อ เจอตุลที่ห้องเตรียมอาหารสัตว์ก็กระแซะถาม

“อย่าหาว่างั้นงี้เลยนะ ถ้าตุลตัดสินใจแบบนี้แล้ว ตุลก็ต้องลองคบกับผู้ชายดู มิชชั่นมันถึงจะสมบูรณ์” ตุลตอบเซ็งๆว่ากำลังรอคนที่ใช่อยู่ โตมรเสนอตัวทันทีว่า “จะรอทำไม คนที่ใช่ก็โตนี่ไง ตุลเป็นแฟนกับโตนะ
ลองคบดูก่อนก็ได้”

โตมรพร่ำเพ้อถึงความเหมาะเจาะของตนกับตุล จนตุลรำคาญบอกว่าฝันไปเถอะ ไล่ไปไกลๆเลยเดี๋ยวเตะซี่โครงหัก ว่าแล้วยกถาดอาหารสัตว์เดินไปเลย โตมรมองตามฝันเฟื่อง พึมพำอย่างมีความหวัง...

“เพิ่งอกหักก็แบบนี้แหละ รับความจริงไม่ได้ ทำเป็นหนี สักวันเหอะ...ตุลต้องใจอ่อนกับโต โตเชื่อในความจงรักภักดีและฟีโรโมนของโต!”

ตุลเอาอาหารไปให้สัตว์ในกรงอย่างซังกะตาย รำพึง

“เกิดเป็นพวกแกนี่มันก็ดีนะ กิน...นอน ถึงเวลาก็จับคู่กันเลย ไม่ต้องเสียเวลาคบ ไม่ต้องถูกทิ้งให้อกหักรักคุดแบบฉัน”

“เป็นอาทิตย์แล้วยังไม่หายโศกอีกเหรอวะตุล” มนตรีผู้จัดการสวนสัตว์วัย 40 ถามพลางเดินเข้ามา “เอาใจมาไว้ที่งานสิ จะได้ลืมเรื่องผู้หญิง” มนตรีดูนาฬิกาแล้วเตือนว่า “จะได้เวลาโชว์อยู่แล้วยังฟีดไม่เสร็จอีก มัวแต่รำพึงรำพันกับเก้งกวางล่ะสิถึงช้า เพิ่งได้เลื่อนเป็นหัวหน้านะเรา ตั้งใจทำงานให้มันเต็มที่หน่อย”

มนตรีเตือนและตำหนิประสาหัวหน้าผู้เคร่งครัด ตุลรับคำเสียงอ่อย โตมรช่วยแก้ให้ว่าเพราะชาติเพิ่งโทร.มาลาป่วยเมื่อเช้านี้ ตุลเลยต้องรับผิดชอบงานของเขาด้วย

“ชาตินี่มันยังไง ชักจะลาบ่อยไปแล้วนะ” มนตรีบ่น บอกตุลว่า “ถ้าอย่างนั้นก็แล้วไป แต่อยากจะเตือนไว้ก่อนนะ อีกไม่กี่วันซีอีโอใหม่จะมาทำงานที่นี่ เราต้องกำชับลูกน้องให้ตั้งใจทำงานให้ดี นายฝรั่งเฮี้ยบนะจะบอกให้”

“ฮ้า!!! นี่มิสเตอร์แบรดจะย้ายมาคุมงานที่นี่เหรอ โอ้...พระเจ้า นึกถึงตอนที่ท่านเรียกไปคุย ตอนนั้นภาษาอังกฤษโตบรรลัยแมนมาก”

โตมรตกใจ หนักใจ มนตรีบอกว่าตอนนี้ก็ยังบรรลัยอยู่ ให้หัดพัฒนาตัวเองบ้าง ไม่ใช่วันๆเอาแต่ตามจีบทอมอยู่อย่างนี้ ไล่ให้กลับไปโซนของตัวเอง จะได้เวลาแสดงแล้ว

โตมรเดินอิดออดออกไป มนตรีมองตามส่ายหน้าระอาแล้วเดินแยกไปอีกทางหนึ่ง ส่วนตุลนั่งทำงานต่อเซ็งๆ

ooooooo

แมตต์มาถึงไทยก็ตรงไปที่บ้านพักที่เชียงใหม่ เจออาภรณ์ที่เขาเรียกว่าน้ากลางกำลังตัดแต่งต้นไม้อยู่ อาภรณ์ดีใจมากต่างโผกอดกันกลม

อาภรณ์พาแมตต์ขึ้นไปที่ห้องพระที่มีรูปและโกศอัฐิของแม่เขา แมตต์นั่งพับเพียบเอาพวงมาลัยมะลิพนมมือไหว้ วางพวงมาลัยลงบนพานแล้วก้มกราบ...

อ่านละคร รักกันพัลวัน ตอนที่ 1 วันที่ 17 ต.ค.60

ละครเรื่อง รักกันพัลวัน บทประพันธ์โดย เชอริณ
ละครเรื่อง รักกันพัลวัน บทโทรทัศน์โดย ปารดา
ละครเรื่อง รักกันพัลวัน กำกับการแสดงโดย ป้าแจ๋ว ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครเรื่อง รักกันพัลวัน ผลิตโดย บริษัท ฟีล กู๊ด เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง รักกันพัลวัน วัน-เวลาออกอากาศ: ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.15 น.
ติดตามชมละครเรื่อง รักกันพัลวัน ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ