อ่านละคร แรงตะวัน ตอนที่ 2/4

อ่านละคร แรงตะวัน ตอนที่ 2/4

นายแบบมาลองเสื้อหลายคน ทุกคนตะลึงเมื่อเห็นรุจิรามีชายหนุ่มอุ้มเข้ามา เอกณัติเงอะงะสักพักกว่าจะวางเธอลงแล้วจะลากลับ รุจิราบอกยังไปไม่ได้ ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายก่อน เลขาของเธอพาเขาไปตกลงราคา ระหว่างนั้นแขไขในชุดคอลเลกชั่นใหม่เดินเข้ามาอวดว่าชุดนี้พอดีเป๊ะขอตนใส่เดินแบบ รุจิราเสียงเข้ม

“เธอเด็กไปสำหรับคอลเลกชั่นนี้ ไปถอดออกแล้วทีหลังอย่าถือวิสาสะใส่ชุดของพี่อีก”

ทันใดเสียงเอกณัติดังขึ้นอย่างตกใจที่สนนราคาที่ต้องชดใช้ตั้งเจ็ดหมื่น เขายืนกรานว่าไม่มีจ่าย รุจิราเด็ดขาดมากขอกรรไกรจากลูกน้องแล้วตรงเข้าตัดเสื้อเอกณัติออกเหลือสภาพเอวลอยแล้วให้กลับไปได้ เขาตกใจไม่คิดว่าเธอจะกล้าทำขนาดนี้ เดินเหวอๆออกจากร้านอย่างอายๆ ในขณะเดียวกันริมถนนไม่ห่างจากร้าน เป้าหมายที่เอกณัติตามถูกคนซัดสลบเหมือดข้างทาง



รุจิราตรวจชุดที่นางแบบนายแบบใส่แล้วสั่งแก้จุดที่บกพร่องอย่างมืออาชีพ แขไขเปลี่ยนชุดแล้วเดินหน้างอเข้ามาบ่นเมื่อไหร่จะให้ตนได้ร่วมเดินแบบ รุจิราบอกต้องมาฝึกเป็นเดือนเป็นปีถึงจะทำได้ แต่แล้วอดสงสารน้องไม่ได้เปรยว่างานหน้าจะให้เดิน แขไขดีใจโผกอดขอบคุณ

ooooooo

คืนนั้นเคทไม่ทานอาหารที่จัดมา บอกน้องพีทว่าต้องอดทน ออกจากที่นี่ไปได้จะพาไปกินไก่ทอด ป้าอุ่นเอาเสื้อผ้ามาให้สองอาหลานเปลี่ยน เคทขอร้องให้ปล่อยพวกตนไป ป้าอุ่นสงสารแต่ไม่กล้าขัดคำสั่งนาย

สุริเยนทร์นั่งมองผ่านกล้องวงจรปิด สุพลเห็นว่าเคทรักและเอาใจใส่น้องพีทจริงๆ ไม่ได้หวังอยากได้เงิน แต่เธอดื้อจนทำให้น้องพีทไม่ได้ทานข้าวไปด้วย...ระหว่างนั้นเอกณัติโทร.เข้ามาหาเคท เธอกดรับสายไม่ทันพูด สุริเยนทร์เปิดประตูเข้ามาเธอจึงรีบเก็บมือถือ สุริเยนทร์กระชากเคทไปที่ถาดอาหารตวาด “เธอจะไม่กินก็เรื่องของเธอ แต่เธอต้องป้อนหลานฉัน”

เคทไม่ยอมต่อรองถ้าสงสารหลานก็ปล่อยพวกตนไป จะกักขังตนกับหลานไว้ที่บ้านพักทำไม สุริเยนทร์ แปลกใจทำไมเคทต้องพูดละเอียด จับพิรุธได้ล้วงมือถือเธอออกมา เคทร้องลั่นเขาเห็นชื่อหน้าจอก็ยิ้มเยาะ กรอกเสียงเข้าไป “รีบๆมาช่วยเร็วๆนะผู้หมวดเอกณัติ ผมจะรอ”

เอกณัติตกใจถามเขาจะทำอะไรเคท แต่ทางนั้นตัดสายไปแล้ว เอกณัติเป็นห่วงมากจะรีบไปช่วยเคท แต่ลูกน้องมารายงานว่า ผู้การให้ไปพบเดี๋ยวนี้ เขาหงุดหงิดใจ อย่างมาก

ด้านเคทผลักสุริเยนทร์อย่างแรง จะแย่งมือถือแต่เขากลับปามันกระแทกผนังแตกกระจายแถมท้าให้โทร.เรียกมาทั้งโรงพักก็ไม่สามารถพาเธอออกไปได้ ทางเดียวที่จะออกไปคือพาพี่ชายมา เคทด่าว่าเขาป่าเถื่อนและจี้ใจ “ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพี่สุรีย์ถึงไม่เคยพูดชื่อคุณให้ใครได้ยินเพราะคุณคือสิ่งเลวร้ายที่ไม่มีใครอยากจดจำ ชอบใช่ไหมที่ได้ทำลายความสุขในชีวิตคนอื่น เอาเลยทรมานฉันให้สะใจ ถ้ามันจะช่วยลบปมด้อยในชีวิตคุณได้ ฉันจะถือว่าทำบุญ”

“ทานตะวัน! เธอท้าฉันเหรอ!” สุริเยนทร์กระชากตัวเคท

เคทพยายามสู้ถอยมาใกล้ถาดอาหารที่วางอยู่ คว้าแก้วนมสาดใส่หน้าเขา สุริเยนทร์ตากร้าวโกรธสุดๆ ไม่พูดจาแต่ปรี่เข้าอุ้มเธอพาดบ่าเดินดุ่มๆออกจากบ้าน ทุกคนตะลึงเป็นห่วงเคท น้องพีทวิ่งตามร้องเรียกอาสาว ป้าอุ่นต้องกันตัวไว้

สุริเยนทร์อุ้มเคทมาโยนลงในกระชังปลา คนงาน ในไร่ต่างตกใจยืนมองนิ่ง เคทดำผุดดำว่ายจนเกาะแผ่นไม้ ทรงตัวไว้ เขาตะโกนบอก หน้าที่เธอคือดูแลหลานตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ต้องขึ้นมา เคทด่าว่าเขาเลว สุริเยนทร์ คว้าถังอาหารปลามาสาดลงไปทำให้ปลาฮุบอาหารอยู่ข้างตัวเธอมากมาย เขาย้ำให้พูดว่าจะยอมทำหน้าที่เลี้ยงหลาน ให้ดีที่สุด เคทมองเขาด้วยสายตาคับแค้นใจจำต้องยอมพูดตามที่เขาสั่ง แต่เขาก็ยังสาดอาหารที่เหลือในถังลงมาพร้อมกล่าว แช่อยู่อย่างนั้นพรุ่งนี้ค่อยขึ้นมา ว่าแล้วก็เดินไปไม่ฟังคำคัดค้านของสุพล เคทจ้อง มองเขาอย่างเกลียดชัง

ในคืนนั้นเพ็ญสิรินอนไม่หลับเดินออกมา เห็นวิสุทธิ์นั่งมองจันทร์อยู่ที่ระเบียง จึงเข้ามาเลียบเคียง ถ้าอยากระบายเรื่องพ่อ ตนก็จะรับฟัง ตนอยากรู้ความโหดร้ายของสุริเยนทร์ วิสุทธิ์หันมองบอกตนไม่เล่าเรื่องส่วนตัวให้คนอื่นฟัง ยกเว้นเราเป็นเพื่อนกัน หญิงสาวจึงบอกยอมเป็นเพื่อนด้วย ยื่นมือไปจับมือกับเขา แต่แล้ววิสุทธิ์กลับพลิกลิ้น

“ผมจะเล่า แต่คุณต้องเล่าดราม่าของคุณกับป๊าม้าก่อน...ในที่สุดเราก็เป็นเพื่อนกันซะที ฮ้าผมหายเครียดละ งั้นก็ไม่มีอะไรต้องระบายแล้วไปนอนดีกว่า ขอบใจนะ ...เพื่อนรัก” วิสุทธิ์ยิ้มกวนลุกเดินเข้าบ้าน แต่พอคล้อยหลัง แววตาเขาก็เศร้าลง เพ็ญสิริฮึดฮัดหมั่นไส้ไล่หลัง

ooooooo

เช้าวันใหม่ ป้าอุ่นนั่งกอดน้องพีทหลับกันอยู่ข้างกระชังปลา เสือโคร่งเข้ามาแกล้งทำให้ป้าอุ่นตกใจเพราะป้าเป็นโรคบ้าจี้ แหกปากตามคำของเขา น้องพีทหัวเราะขำ

แล้วเสือโคร่งก็ตะโกนบอกเคทนายให้ขึ้นจากน้ำได้แล้ว เคทปล่อยมือที่เกาะไม้จะตะกายขึ้นแต่ต้องหมดแรงจมดิ่งลงไป ป้าอุ่นร้องให้คนช่วย ไม่ทันไรสุริเยนทร์ โดดตูมลงไปดึงเคทขึ้นมา เขาอุ้มเธอเรียกให้เธอได้สติด้วยสายตาสงสาร เคทเพ้อเรียกสุรีย์ในอ้อมแขนเขา

พอวางเคทบนเตียงในห้อง จ่ายักษ์ก็เข้ามารายงานว่ามีตำรวจมา สุริเยนทร์รู้ว่าต้องเป็นเอกณัติ จึงให้ไปรับหน้าก่อนตนจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ป้าอุ่นแปลกใจว่าเสือโคร่งหายไปไหน

พอเพ็ญสิริได้ยินที่เสือโคร่งรายงานวิสุทธิ์ก็ไม่รอช้า ขับรถพุ่งออกไปทันที...เอกณัติบอกสุพลว่าได้รับแจ้งมีการกักขังหน่วงเหนี่ยวถ้าไม่อยากเป็นคดีความอย่าขัดขวาง การตรวจค้น สุพลซึ่งเป็นทนายใช้ข้อกฎหมายคัดค้านแต่เอกณัติยื้อจะเข้า สุริเยนทร์ออกมาเยาะมาเร็วกว่าที่คิด

“ก็มาตามคำเรียกร้องไงครับ”

“ทุ่มเทขนาดนี้ ผมหวังว่ามันจะช่วยให้ทานตะวันซาบซึ้งและมองเห็นความรักของคุณบ้างนะ”

“คุณ! นี่คือสไตล์ของคุณใช่ไหมครับ เช็กประวัติ ขุดคุ้ยอดีตเพื่อเอามาบีบบังคับ ไม่ทราบว่าเจออะไรบ้างล่ะครับ ช่วยบอกผมหน่อยดิ”

“ไม่เจอ ผู้หมวดเป็นตำรวจที่มีประวัติดี ดีจนไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่รอดจนถึงทุกวันนี้ได้ จากประสบการณ์ผมบอกได้เลยว่าอนาคตหมวดต้องตายเหมือนหมาเพราะความดีของหมวดนี่ล่ะ”

เอกณัติโต้ว่าประสบการณ์ตนก็เจ้าพ่อมาเฟียส่วนใหญ่ติดคุกหัวโต ตำรวจเข้ามารายงานว่าไม่พบเคทในบ้าน จ่ายักษ์เยาะให้ค้นนอกบ้าน ไร่กว้างแค่ไม่กี่พันไร่ ทันใดเพ็ญสิริขับรถมาถึงวิ่งเข้ามาหาให้ข้อมูลเอกณัติ เธอเห็นป้าอุ่นมีท่าทีหลุกหลิก จึงแอบไปเค้นถามแต่ป้าไม่พูดอะไร จนกระทั่งเสือโคร่งเข้ามาถามว่าเมื่อกี้ดำเกิงขี่รถออกไปใช่ไหม เพ็ญสิริจึงคิดว่าต้องตามดำเกิง

ที่โกดังเก็บพืชผล เคทนอนหมดแรงด้วยพิษไข้ น้องพีทนั่งร้องไห้อยู่ข้างๆ ดำเกิงเอายาเข้ามาให้จ้อนซึ่งเฝ้าอยู่ เคทไม่ยอมกิน พยายามจะพาน้องพีทหนี อ้อนวอนขอร้องดำเกิง ดำเกิงใจอ่อนชี้ทาง วิ่งตัดทุ่งหญ้านี้ไปจะเข้าเขตไร่ปลายฟ้าของวิสุทธิ์ ให้ไปขอความช่วยเหลือที่นั่น

จ้อนเห็นเคทจูงหลานวิ่งหนีก็ร้องโวยวาย จึงโดนเคทถีบมอเตอร์ไซค์ล้มทับ...เพ็ญสิริมาถึงไม่พบใคร เคทจูงน้องพีทวิ่งฝ่าเปลวแดดร้อนระอุไปตามทุ่ง ระหว่างนั้น เอกณัติกำลังต่อลองกับสุริเยนทร์ให้ปล่อยตัวเคทกับหลาน แล้วตนจะช่วยสืบหาคนฆ่าสุรีย์ให้ สุริเยนทร์เยาะจะทำได้หรือ ขนาดเด็กเฝ้าบ่อนเขายังจับไม่ได้ เอกณัติ หน้าเสีย พอดีจ้อนมารายงานว่าเคทหนี เอกณัติจะตามแต่ถูกบอดี้การ์ดล้อมไว้ สุริเยนทร์รีบควบม้าออกไป

เคทจูงน้องพีทวิ่งมาใกล้รั้วปลายไร่ แต่ด้วยพิษไข้จะหมดแรง ได้ยินเสียงม้าควบมาจึงบอกให้น้องพีทรีบไปปีนรั้วข้ามไปฝั่งโน้นก่อน น้องพีทลังเลสักพักกว่าจะยอมปีนข้ามไป

ooooooo


เคทภาวนาขอให้สุรีย์ช่วยให้น้องพีทข้ามรั้วไปไร่ปลายฟ้าได้อย่างรอดปลอดภัย ก่อนจะหันมามองสุริเยนทร์ที่ควบม้ามาถึงด้วยสายตาพร่าพราย เสียงเขาคำรามคิดว่าจะหนีรอดเหรอ ทำให้เคทฮึดตะกายตามน้องพีทแล้วปีนข้ามไปด้วย

วิสุทธิ์กับพวกคนงานขี่รถเอทีวีมาถึง ประกาศกร้าว “คุณไม่มีสิทธิ์ทำร้ายใครก็ตามที่อยู่ในเขตไร่ของผม”

สุริเยนทร์ท้วงว่ามาเอาตัวหลานชาย เคทเถียงว่าน้องพีทเป็นหลานตน วิสุทธิ์สรุปความว่า ตอนนี้เคทและหลานอยู่ในเขตไร่ปลายฟ้า ถือเป็นแขกในไร่ ตนจำเป็นต้องปกป้อง สุริเยนทร์ควบม้ากระโดดข้ามรั้วเข้ามา ท้าจะทำอะไรตน จ่ายักษ์กับพวกตามมายืนชิดขอบรั้ว วิสุทธิ์กล่าว

“ผมก็อยากรู้เหมือนกัน บางทีผมอาจจะใช้วิธีแบบที่พ่อคุณชอบทำก็ได้...ลอบกัด”

สุริเยนทร์ท้าตนอยู่บนหลังม้าเหมือนตอนพ่อเขาตาย “ถ้านายอยากจะลอบกัดฉันแบบที่พ่อนายเจอมาก็เอาเลย แต่ถ้าไม่ทำ ก็อย่ามายุ่งกับคนของฉัน ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน”

ทันใดมีเสียงปืนดังปัง!สุริเยนทร์ร่วงตกจากหลังม้านอนแน่นิ่ง ทุกคนตกใจ วิสุทธิ์หันมองว่าใครยิง เพ็ญสิริ กับเสือโคร่งวิ่งมาถึงยืนตะลึง เคทกอดน้องพีทแน่น...

บนต้นไม้ห่างออกมา คนร้ายถอดหมวกไหมพรมเผยให้เห็นว่าเป็นดำเกิง เขายิ้มมุมปาก “กู๊ดไนท์นายภู...”

เอกณัติมาถึงตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า พลันหันมองทิศทางกระสุน เห็นต้นไม้ไหว จ้องมองเหมือนสบตากับคนร้ายเข้าพอดี จึงรีบวิ่งพรวดออกไป จ่ายักษ์สั่งบอดี้การ์ดดูแลเจ้านายแล้ววิ่งตามเอกณัติไป...ดำเกิงวิ่งหนีอย่างชำนาญทาง กระโดดข้ามรั้วกลับไปไร่ภูทับดาว ไปยังโกดังเก็บพืชผล โยนปืนและถอดเสื้อคลุมทิ้ง จงใจเอาหัวกระแทกเสาล้มลงร้องครวญคราง พอเอกณัติตามมาถึงก็ทำตัวเป็นคนงานซื่อบื้ออย่างเดิมชี้ว่า คนร้ายหนีไปทางนั้น จ่ายักษ์มาถึงเห็นดำเกิงก็ไม่เอะใจวิ่งตามเอกณัติต่อ จนมาหยุดที่หลังโกดัง เอกณัติจึงบอกว่า คนร้ายหนีไปได้

อ่านละคร แรงตะวัน ตอนที่ 2/4

ละคร แรงตะวัน บทประพันธ์โดย: เบญจามินทร์
ละคร แรงตะวัน บทโทรทัศน์โดย:ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส
ละคร แรงตะวัน กำกับการแสดงโดย:พี่นาย สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร
ละคร แรงตะวัน ผลิตโดย:บริษัท เลิฟ ดราม่า จำกัด By ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา
ละคร แรงตะวัน ออกอากาศ ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. เริ่ม 15 มิถุนายน 2559
ละคร แรงตะวัน ติดตามชมได้ทาง สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ