อ่านละคร ลมซ่อนรัก ตอนที่ 8

อ่านละคร ลมซ่อนรัก ตอนที่ 8

“ขอบคุณนะครับที่อนุญาตให้เราเข้ามาเก็บ”
“ไม่เป็นไร สตรอว์เบอรี่ผมจะได้หวานๆ” ปราณนต์เขิน แต่ฟอร์ม มองไปที่ภัทรินที่สนุกกับการเก็บสตรอเบอรี่อยู่ ปราณนต์เผลอยิ้มออกมา

ที่บ้านของปราณนต์ ภัทรินเอาสตรอว์เบอรี่สีสดสวยลูกใหญ่ที่เก็บมาได้ใส่ไว้ในจาน
“ว้าว สตรอว์เบอรี่ๆๆ” ภัทรินจะหยิบกินอีก


ปราณนต์ตีมือหญิงสาวเบาๆ “อย่ามาเนียน..จานนี้น่ะคือที่ผมเก็บมา..ของคุณอยู่นี่” เขายื่นอีกจานที่แคระแกรนๆ ยังสีไม่สดมาก ส่อแววว่าเปรี้ยวแน่มาให้ “เอาของคุณไป เอาของผมมา”
“หูย หมอ..ไปเก็บด้วยกันมาก็ต้องเอามาแชร์กันสิ” ภัทรินเอ่ยขอดื้อๆ
“ไม่”
“ใครมา” ภัทรินเสมองไปนอกบ้าน เอ่ยขึ้น ปราณนต์หันไปมอง หญิงสาวรีบเอาสตรอว์เบอรี่ของตัวเองเทปนไปกับของปราณนต์
“ไม่เห็นมี..เฮ้ย” ปราณนต์หันกลับมาแล้วร้องตกใจ
“อุ๊ย ปนกันหมดเลย แยกไม่ออกแล้วว่าของใครเป็นของใคร ต้องแบ่งกันกินแล้วล่ะ”
“คุณนี่มัน..ไม่ได้” ปราณนต์ดึงจานออก จากนั้นถือจานเดินหนี
ภัทรินเดินตาม ทำเสียงอ้อน “นะๆๆ แบ่งกันนะ อย่าใจร้ายสิ”
“ก็ได้ แต่ผมจะไม่ยอมให้คุณได้กินอย่างมีความสุขแน่”
“อะไรอีกอ่ะ”
“มาเล่นเกมกัน..ผลัดกันถามคนละคำถาม..ถ้าผมถาม แล้วคุณตอบถูก คุณมีสิทธิ์ที่จะกินหรือให้ผมกินก็ได้ แต่ถ้าคุณตอบไม่ถูก ผมก็มีสิทธิ์จะกินหรือให้คุณกินก็ได้..กล้าป่าว”
“ก็ได้ เริ่มมาเลย”
ปราณนต์หยิบสตรอว์เบอรี่ที่สีสดสวยมาวางเป็นเดิมพัน “สตรอว์เบอรี่ลูกนี้ พันธุ์อะไร”
“โหย ยาก ขอเปลี่ยนคำถาม”
“ไม่ได้..ตอบมาๆๆ”
“พันธุ์..พันธุ์ฟูจิ”
“นั่นมันแอปเปิ้ล!! นี่คือพันธุ์พระราชทาน 80 ฮะๆ” ปราณนต์หย่อนสตรอเบอรี่เข้าปากอย่างเยาะเย้ย ภัทรินได้แต่อิจฉา
ภัทรินหยิบสตรอเบอรี่สีสดมาวางเช่นกัน “ตาชั้นบ้าง...ชั้นสระผมครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่”
“เฮ้ย คำถามยังงี้ถามมาได้ไง”
“กติกาไม่ได้บอกนี่ว่าต้องเป็นคำถามเรื่องอะไร เพราะงั้นอะไรก็เป็นคำถามได้” ภัทรินเฉไฉ
“เจ้าเล่ห์มาก..อื้มมม สามวัน” ปราณนต์พิจารณาเส้นผมแล้วเอ่ยเดา
“ฮะๆๆๆ” ภัทรินหย่อนสตรอเบอรี่เข้าปาก แล้วตอบ “เจ็ดต่างหาก ฮะๆๆๆ”
“เฮ้ย ไม่ได้สระผมอาทิตย์นึง ยังมีหน้ามาหัวเราะอีก”
ภัทรินทำท่าไม่สะทกสะท้าน เคี้ยวจั๊บๆ “ อา..หร่อย..”
ปราณนต์หยิบสตรอเบอรี่ที่สีเพี้ยน เปรี้ยวแน่นอน ออกมาวาง 2 ลูก
ภัทรินอึ้ง “โห เล่นแรง เดี๋ยวก็รู้ว่าใครจะต้องกิน..ถามมาเลย!”
“วันนี้เกิดอะไรขึ้นระหว่างคุณกับแฟนเก่า?”
ภัทรินอึ้ง เหวอ บรรยากาศสนุกสนานหายไปทันที “นี่ไม่ใช่คำถาม”
“คุณบอกเองว่าอะไรก็เป็นคำถามได้”
“ชั้นไม่ตอบ”
“งั้นก็กิน”
ภัทรินหยิบสตรอว์เบอรรี่มากิน แล้วหยิบสตรอเบอรี่สีเพี้ยนมาวางเช่นกัน 3 ลูก “เรื่องที่นายกำลังเครียดอยู่ตอนนี้คือเรื่องอะไร”
ปราณนต์ไม่ตอบ หยิบสตรอว์เบอรี่มากินเลย
ปราณนต์เอาสตรอว์เบอรี่สวยสดมาวาง “คุณยังรักแฟนเก่าอยู่ คุณถึงได้สติสตังไม่อยู่กับเนื้อกับตัวหลังจากที่เจอเขา..ผมพูดถูกใช่มั้ย”
“ผิด ชั้นไม่ได้รักแล้ว” ภัทรินตอบแล้วเอาสตรอเบอรี่มากิน
“งั้นทำไม..” ปราณนต์สงสัย
“ตาชั้นถาม” ภัทรินหยิบสตรอเบอรี่สีเพี้ยนมาวางหมดหน้าตัก “ชั้นไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ อย่าถามได้มั้ย”
“ไม่ได้” ปราณนต์หยิบสตรอเบอรี่มากิน แล้วถามคืนทันที “ผมถามเพราะผมเป็นห่วง ไม่อยากให้คุณอัดอั้นทุกข์ใจอยู่คนเดียว..เล่าให้ผมฟังได้มั้ย”
“ชั้น..ชั้นไม่เล่นแล้ว” ภัทรินผละเดินหนีออกไปทันที
“ภัทริน..” ปราณนต์คว้าแขนอีกฝ่ายเอาไว้ ไม่ให้เดินหนี
ในที่สุดภัทรินก็ทนเก็บไว้ไม่ไหว พูดออกมา “เขาหาว่าชั้นขายตัวเพื่อล้างหนี้..และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ..ชั้นทำอย่างนั้นจริงๆ” ภัทรินตัดบท “พอใจยัง ชั้นไปนอนแล้ว” หญิงสาวเดินหนีเข้าบ้านไป
ปราณนต์อึ้งๆ ที่ได้ยิน

ปราณนต์กลับเข้ามาในบ้าน มองเข้าไปในห้องนอน เห็นภัทรินนั่งอยู่ที่เตียงนอน จึงเดินเข้ามาพูด
“ภัทร..คุณก็รู้ว่าเรื่องแต่งงานมันไอเดียผม ไม่ใช่คุณ”
“ใช่ แต่ไม่มีใครรู้ข้อตกลงของเรา ทุกคนก็จะมองชั้นเป็นผู้หญิงหิวเงินอยู่คนเดียว.. ถึงชั้นจะเป็นยัยบ้าใช้เงินเหมือนเททิ้ง แต่ชั้นก็มีศักดิ์ศรี ชั้นใช้แต่เงินที่ชั้นหามาได้ ไม่เคยอยากได้เงินคนอื่น ไม่เคยขโมย ไม่เคยคิดทุจริตใคร”
“ผมเชื่อคุณ..เชื่อจริงๆ..แต่คุณอย่าไปเก็บเอาคำพูดของคนที่ไม่มีค่ามาใส่ใจเลย รกสมองเปล่าๆ”
“ชั้นเจ็บใจที่สุดก็ตรงนี้..ทำไมต้องไปแคร์ ต้องเจ็บปวดกับคำพูดของมัน..มันไม่มีอะไรดีเลย ชั้นรักมันลงไปได้ยังไง แล้วยังคิดอยากแต่งงานกับมันอีก..ชั้น..ชั้นมันโง่งี่เง่าตาบอดที่สุดในสามโลกเลย” ภัทรินน้ำตากำลังจะไหลออกมาเอง แต่ไม่อยากร้องไห้ รีบกลั้นอารมณ์ “ไม่..ชั้นจะไม่ร้องไห้”
ปราณนต์เข้าไปนั่งข้างๆ ลูบหัว ปลอบ อ่อนโยน “ไม่ใช่แค่คุณหรอก ใครๆ ก็ต้องเคยโง่กันมาก่อนทั้งนั้น..ช่างมันเถอะนะ..นอนดีกว่า แล้วพรุ่งนี้เราไปตะลุยหาของกินกันต่อ”
“ก็ดี ชั้นอยากกินเค้ก เค้กอร่อยๆ”
ปราณนต์ยิ้ม จัดให้ภัทรินล้มตัวลงนอน ภัทรินนอนแล้วหันหน้าไปอีกด้าน หันหลังให้ ปราณนต์นั่งดูแลอยู่ข้างๆ ยกมือลูบเส้นผมของภัทรินอย่างเอ็นดู แต่แล้วอยู่ๆภัทรินที่นอนอยู่ก็ตัวสั่นสะอึกสะอื้นขึ้นมาอีก
“ร้องจนได้..ชั้นนึกว่ามันจบแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ มันไม่ง่ายเลย ทำไมชั้นถึงเป็นคนอย่างนี้”
“ไม่เอา อย่าคิด”
“ชั้นไม่ได้เสียใจ แต่ชั้นเจ็บใจ เจ็บใจที่สุดเลย”
ปราณนต์เดินอ้อมมาอีกด้าน เพื่ออยู่ตรงหน้าภัทริน “ชู่ว์ๆๆๆ ไม่เอา ไม่พูด ไม่คิด..ถ้าจะคิด ให้คิดถึงเรื่องดีๆอย่างอื่น เรื่องแม่คุณก็ได้”
“ถ้าแม่รู้ แม่ต้องผิดหวัง”
“คิดเรื่องผมก็ได้”
ภัทรินเหลือบมองหน้าชายหนุ่ม“ชั้นไม่รู้จะคิดถึงเรื่องอะไร”
“ด่าผมก็ได้ ด่าเลย” ปราณนต์ลงนอนท่าปางไสยาสน์อยู่ตรงหน้าภัทริน ทำหน้าตากวนประสาท ยั่วให้ด่า
“หมอบ้า หมอโง่ ปากเสีย โรคจิต หน้าด้าน ลามก กวนประสาท เจ้าเล่ห์ ใจร้าย”
“ผมไม่เจ็บเลย” ปราณนต์ตะล่อมให้หลับตา “ทีนี้หลับตา แล้วสร้างสรรค์คำด่าผมในใจนะ จะด่ายังไงให้ผมเจ็บสุดๆ” ภัทรินพึมพำคำด่าต่อไปเรื่อยๆๆๆ น้ำตาหยุดไหลช้าๆ ค่อยๆ สงบลง
ปราณนต์มองดูภัทรินอย่างอ่อนโยน ในสายตาเขา หญิงสาวดูบริสุทธิ์ บอบบาง ต้องการการทะนุถนอมมาก ภัทรินค่อยๆ สงบลงไป หลับไปในที่สุด ชายหนุ่มยกมือปาดน้ำตาให้เบามือยังคงมองภัทรินอย่างอ่อนโยน รักใคร่ จนห้ามตัวเองไม่อยู่ ยื่นหน้าเข้าไปหอมหน้าผากของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา ภัทรินยังคงหลับไม่รู้เรื่อง
แต่แล้วอยู่ๆ ภัทรินก็ลืมตาขึ้นมามองหน้าปราณนต์ จ้อง ฉงน สับสน ไม่เข้าใจความรู้สึกของปราณนต์และของตัวเอง ชายหนุ่มอึ้ง เหวอ พูดไม่ออก หญิงสาวพลิกตัวหันไปอีกด้าน หันหลังให้ชายหนุ่มทันที โดยไม่ได้พูดต่อว่าอะไรสักคำ ปราณนต์รู้สึกพลาดที่ห้ามใจตัวเองไม่อยู่ เข้าใจว่าภัทรินรังเกียจ ขณะที่ภัทรินเองก็นอนลืมตา รู้สึกสับสน
เช้าวันใหม่ ที่ห้องพักคนไข้ ปราณค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา มองเพดานเลื่อนลอย ตั้งสติ สักพัก รู้สึกได้ถึงลมเบาๆ พัดมาจากหน้าต่าง ค่อยๆ หันหน้าไปมอง เห็นบรรยากาศยามเช้า ผ้าม่านขาวปลิวไหวๆ สดชื่น แล้วอยู่ๆ ก็มีแจกันดอกทานตะวันสีสดมาวางอยู่ตรงโต๊ะริมหน้าต่างนั้น ปราณมองขึ้นมา พบว่าคืออัณณา
“ตื่นแล้วเหรอปราณ” อัณณายิ้มทักทาย ปราณยังนิ่ง ตั้งสติ ระลึกความทรงจำที่มีต่อผู้หญิงคนนื้ “ร้านดอกไม้ที่นี่มีดอกทานตะวันที่ปราณชอบพอดี อัณเลยให้เขาจัดมาให้ ปราณเห็นแล้วจะได้สดใส มีพลัง เหมือนทานตะวัน” อัณณาหันมามองปราณ ที่ยังคงจ้องตนนิ่ง “คิดอะไรอยู่”
“อัณณา..” ปราณเอ่ยออกมา
“คะ อยากดื่มน้ำมั้ย” ปราณพยักหน้านิดๆ หญิงสาวไปหยิบน้ำเทใส่แก้วมา แล้วค่อยๆประคองปราณให้ลุกขึ้นนั่ง “ระวังนะ” อัณณาป้อนให้ปราณดื่มน้ำจากหลอด
“เข้าห้องน้ำมั้ยคะ?” ปราณส่ายหน้า
“หิวหรือเปล่า?” ปราณส่ายหน้า
“หรืออยากดูทีวี?” ปราณยิ้ม อัณณาแปลกใจ
“คุณทำเหมือนผมเป็นเด็ก”
“ก็เห็นปราณเพิ่งฟื้น เผื่อยังนึกคำพูดอะไรไม่ออก อัณก็แค่จะช่วย”
“อัณณา..” ปราณยิ้มเรียกชื่ออีกฝ่ายออกมาอีก
“ค่ะ รู้แล้วว่าจำชื่ออัณได้..ไหนบอกหน่อยสิคะว่าปราณจำอะไรเกี่ยวกับอัณได้อีกบ้าง”
“คุณ..เป็นเพื่อนสนิทผม”
“ค่ะ” อัณณารับคำ
“และ..เป็นแฟนผมด้วย”
“หือ” อัณณาอึ้ง
“ไม่ใช่เหรอ?” ปราณเห็นสีหน้าอัณณาแล้วย้อนถาม
หญิงสาวอึกอัก กำลังจะหาทางตอบ แต่พอดีหมอและพยาบาลเปิดประตูเข้ามาขัดจังหวะก่อน
หมอเอ่ยเสียงร่าเริง “เอาล่ะ ตื่นแล้ว หมอขออนุญาตตรวจอาการอย่างละเอียดอีกทีนะครับ..จะได้แน่ใจว่าไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไร”

อีกด้านหนึ่งที่บ้านของปราณนต์ ภัทรินลืมตาตื่นขึ้นมา แต่ยังคงนอนนิ่งอยู่ จมไปในห้วงความคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปราณนต์เพิ่งอาบน้ำเสร็จ มีผ้าขนหนูผืนเล็กพาดอยู่ที่บ่า เดินผ่านมาเห็นภัทรินนอนลืมตา
“ตื่นแล้วทำไมไม่ลุก..ไม่สบายหรือเปล่า”
“เปล่า” ภัทรินตอบปฏิเสธ
ปราณนต์เข้ามาจับหน้าผากภัทริน “ตัวก็ไม่ร้อนมาก กินยากันไว้สักเม็ดมั้ย ผมไปหยิบให้”
“ชั้นไม่ได้เป็นอะไร”
“แน่ใจ”
“ไปแต่งตัวไป อุบาทว์”
“อ้าว คนอุตส่าห์เป็นห่วง”
ภัทรินหันหนี ไม่สนใจ ปราณนต์คิดแกล้ง เลยยื่นหน้ามา แล้วสะบัดผมให้น้ำหยดใส่ “จะนอนขี้เกียจไปถึงไหน ลุกๆๆๆๆ”

อ่านละคร ลมซ่อนรัก ตอนที่ 8

ลมซ่อนรัก บทประพันธ์โดย นราเกตต์
ลมซ่อนรัก บทโทรทัศน์โดย ศักดิ์ชัย
ลมซ่อนรัก กำกับการแสดงโดย ชุดาภา จันทเขตต์
ลมซ่อนรัก ผลิตโดย บริษัท ฟีล กู๊ด เอนเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ลมซ่อนรัก ผู้จัดโดย ธิติมา สังขพิทักษ์
ลมซ่อนรัก ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสี ช่อง 3