อ่านละคร ลมซ่อนรัก ตอนที่ 20/3

อ่านละคร ลมซ่อนรัก ตอนที่ 20/3

สินธรกำลังจะพาคุณแอ๋วเดินเข้าไปด้านใน แต่ต้องชะงัก เพราะชมนาดเข้ามายืนรอต้อนรับอยู่
“สวัสดีค่ะคุณสินธร สวัสดีค่ะคุณแอ๋ว..วันนี้คุณแอ๋วสวยเป็นพิเศษเลยนะคะ..ดูเหมาะกับคุณสินธรมากๆ ค่ะ”
“ขอบคุณค่ะคุณชม” คุณแอ๋วยิ้มรับคำชม
ชมนาดยิ้มแย้มเป็นมิตรมากๆ สินธรไม่ไว้ใจ แปลกใจกับท่าทางของชมนาด

ห้องพักคนไข้ อัณณากับปราณยืนอยู่ในห้องพักคนไข้ผ่าตัด พสุวัฒน์นอนลืมตาอยู่ หมอเปิดผ้าพันแผลตรวจดูรอยการผ่าตัดเสร็จก็ให้พยาบาลปิดแผลตามเดิม
“แผลสมานดี ไม่มีน้ำซึมนะครับ” หมอยิ้ม แซวให้พสุวัฒน์มีกำลังใจ “ถ้าอาการดีอย่างนี้ นอนโรงพยาบาลสักสิบวันก็กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้แล้วครับ”
พสุวัฒน์นั่งนิ่ง ยิ้มที่ปากนิดนึง แต่ขยับได้แค่มุมปากเดียว
“แล้ว..คุณท่านจะจำทุกอย่างได้เหมือนเดิมมั้ยคะ” อัณณาถามอย่างกังวล
“ได้ครับๆ ทดสอบแล้วความทรงจำยังปกติทุกอย่าง เพียงแต่การตอบสนองอาจจะช้านิดนึง เพราะเส้นประสาทยังไม่เชื่อมต่อกันดี ใบหน้าซีกซ้ายอาจจะขยับได้น้อย แต่ดูจากกำลังใจแล้ว ผมว่าวันที่สามก็ลุกเดินได้แล้วครับ”


พยาบาลถือถาดอาหารเข้ามา เตรียมตัวจะป้อน “ทานอาหารหน่อยนะคะ”
ปราณเข้าไปจับถาดอาหารจากพยาบาล พยาบาลรู้ว่าปราณอยากจะป้อนอาหารเอง พยาบาลยิ้มให้ ถอยออกมา อัณณามองอย่างเข้าใจและเห็นใจความคิดของปราณ

อัณณาเดินออกมานอกห้อง หมอกับพยาบาลแยกตัวออกไป หญิงสาวมองกลับเข้าไปในห้องพัก เห็นปราณกำลังจะป้อนอาหารให้พสุวัฒน์ รู้สึกสงสาร เห็นใจ แล้วหยิบมือถือมากดโทรหาปราณนต์ แต่ยังคงติดต่อไม่ได้
“ทำไมติดต่อไม่ได้เลย ณนต์เป็นอะไรหรือเปล่า”
อัณณามองไปอีกด้านของทางเดิน เห็นบอดี้การ์ดของสินธรเดินตรงเข้ามา หญิงสาวแปลกใจ
ในห้องพักคนไข้ ปราณถือถาดอาหารอ่อนมานั่งข้างเตียงเพื่อป้อนให้พสุวัฒน์ช้าๆ คำเล็กๆ ปราณมีน้ำตาคลอออกมา ด้วยความรักและสงสารพ่อที่ถูกสั่งการมาจากจิตใต้สำนึก พสุวัฒน์เห็นน้ำตาของปราณ รับรู้ความรู้สึกลูกชายได้ เอามืออีกข้างมาจับมือปราณไว้ ขยับปากอยากจะพูด
ปราณปาดน้ำตาทิ้ง “พ่อ..พ่อนอนพัก ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องห่วงเรื่องบริษัทนะ..พักรักษาตัวอย่างเดียว..ที่เหลือผมกับปราณนต์จะจัดการเอง..ผมมีหลักฐาน..หลักฐานอะไรก็ไม่รู้ แต่ผมรู้สึกได้ว่า มันช่วยเราได้..ความรู้สึกผมต้องถูก..เหมือนที่ผมรู้ว่าอัณณาหวังดีกับผม..เหมือนที่..ผมห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลไม่ได้”
พสุวัฒน์น้ำตาคลอไปด้วย อ้าปากให้ปราณป้อนข้าวต่อไป แต่แล้วอยู่ๆ บอดี้การ์ดของสินธรเปิดประตูเข้ามาในห้อง
“พวกคุณเข้ามาไม่ได้” อัณณารีบตามเข้ามาร้องห้ามขึ้น
“เราได้รับคำสั่งมาจากจีแอลเอส ให้มาเฝ้าคุณพสุวัฒน์”
“เฝ้าทำไม..คำสั่งจีแอลเอสหรือคำสั่งคุณสินธร!! คุณลุงเพิ่งจะผ่าตัดสมองเสร็จคิดว่าจะลุกเดินหนีไปไหนงั้นเหรอ..ออกไป..ไม่งั้นชั้นจะแจ้งหมอว่าพวกคุณมาสร้างความกดดันให้คนไข้” อัณณาเอาเรื่อง จริงจัง ไม่ยอมให้
“เราจะเฝ้าอยู่นอกห้องครับ” บอดี้การ์ดทำท่าไม่สะทกไม่สะท้านแล้วเดินออกไป
“คิดจะคุมไม่ให้พวกเราขยับตัวไปไหนได้เลยใช่มั้ย” อัณณาเอ่ยเสียงเครียด รู้สึกหงุดหงิด ปราณเองก็รู้สึกเครียดไปด้วยเช่นกัน

อีกด้านหนึ่ง มีนกเกาะที่หน้าต่าง ส่งเสียงจิ๊บๆ ภัทรินนอนอยู่บนเบาะที่ปูกับพื้นอย่างง่ายๆ หญิงสาวได้ยินเสียงธรรมชาติ ค่อยๆ รู้สึกตัวลืมตาตื่น พบว่าตัวเองหลับอยู่ในเรือนแพไม้ที่ไหนก็ไม่รู้ แปลกใจ ลุกขึ้นมานั่ง มองไปรอบๆ แล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นวิวธรรมชาติในกรอบหน้าต่างนั้น ชักแปลกใจ ลุกเดินออกไป
ภัทรินเดินออกมาด้านนอกห้องพัก แล้วก็ต้องตาโต ตะลึงกับภาพตรงหน้า หญิงสาวพบว่าตัวเองอยู่ในเรือนแพที่ลอยอยู่กลางน้ำภายในเขื่อนที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา มีภูเขาเกาะแก่งล้อมรอบ สวยงาม ร่มรื่น “ฮ้า..”
แต่แล้วมีเสียงน้ำกระฉอกดังมา ภัทรินหันไปมอง พบว่าอีกด้านใกล้ๆ กัน มีดอกดาหลา ผุดขึ้นมาจากในน้ำ ภัทรินแปลกใจ เข้าไปนั่งมองใกล้ๆ จะเอื้อมมือจับ ดอกไม้ขยับหนี ภัทรินแปลกใจ แต่แล้วอยู่ๆปราณนต์ก็โผล่พรวดขึ้นมาจากใต้น้ำ
“ว้าย!!!” หญิงสาวร้องตกใจ หงายหลัง
ปราณนต์ที่อยู่ในน้ำ หัวเราะขำกลิ้ง

ปราณนต์ปีนขึ้นมาจากน้ำ “ฮ้า ได้ว่ายน้ำซะหน่อย สดชื่นมากกกก”
ภัทรินยืนจ้องอยู่ แค้นที่ถูกแกล้ง “โรคจิต..คุณพาชั้นมาที่นี่ได้ยังไง”
“คุณมีไข้ แล้วก็หลับไม่รู้เรื่อง พอดีรถบรรทุกแวะเข้าห้องน้ำที่ปั๊ม แล้วผมก็พอจะมีคนรู้จักอยู่ที่นี่ ก็เลยแบกคุณลงรถบรรทุก แล้วแบกขึ้นรถเครื่อง กว่าจะมาถึงที่นี่ รู้มั้ยว่าผมแทบตาย..นี่คุณไม่รู้ตัวเลยจริงๆ เหรอ”
“อ้าว เรื่องจริงเหรอ ชั้นก็นึกว่าชั้นฝัน”
“ฝัน!! ไอ้ที่ผมลำบากมาทั้งหมด คุณคิดว่าฝันอยู่..เยี่ยมมาก!!” ปราณนต์สะบัดหัวที่เปียกน้ำใส่ภัทริน “นี่แน่ะ ตื่นยังหะ!!”
“เฮ้ย อย่านะ หยุด” ภัทรินร้องห้ามเสียงหลง
ปราณนต์ไม่หยุด หัวเราะสะใจ ภัทรินที่ปัดป้องในทีแรก แต่แล้วก็ชะงักไป เพราะคิดถึงอดีต ช่วงที่ปราณนต์สะบัดน้ำในหัวใส่ภัทริน แต่แล้วปราณนต์ต้องเป็นฝ่ายชะงักเอง หยุดเล่น ภัทรินจ้องอย่างฉงน
ปราณนต์อึกอัก รีบเปลี่ยนเรื่อง “ไปล้างหน้าล้างตาไป” ชายหนุ่มเดินหนี ภัทรินมองตามอย่างสงสัย

อีกด้านหนึ่ง ชมนาดพาสินธรกับคุณแอ๋วเข้ามาในห้องรับรอง ของบริษัทจีแอลเอส “นักข่าวกำลังทยอยมาแล้วนะคะ..คุณแอ๋วเตรียมคำพูดไว้แล้วใช่มั้ยคะ”
คุณแอ๋วตื่นเต้น “ก็..ค่ะ..เตรียมแล้ว แต่แอ๋วไม่เคยให้สัมภาษณ์สื่อเยอะอย่างนี้มาก่อน ตื่นเต้นจัง”
“ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ ยิ้มสวยๆ เข้าไว้ ถ้ามีอะไรผิดพลาดคุณคุณสินธรจะช่วยคุณแอ๋วอยู่แล้วค่ะ คุณสินธรไม่มีวันทิ้งคุณแอ๋วหรอกค่ะ..จริงมั้ยคะ” ชมนาดเอ่ยถามสินธรเป็นนัยๆ
คุณแอ๋วคล้องแขนสินธร “คุณต้องช่วยแอ๋วนะคะ”
สินธรตบมือคุณแอ๋วเบาๆ แบบให้กำลังใจ แต่สายตากลับมองชมนาดอย่างระแวง ชมนาดยิ้มมุมปาก ท่าทางเยาะๆ

เวลาต่อมา ชมนาดเดินแยกออกมา สินธรเดินตามมาติดรู้สึกฉุนๆ ไม่พอใจ คว้ามือชมนาดลากเข้าไปมุมที่ลับตาคนทันที “เธอคิดจะทำอะไร”
ชมนาดกลับยิ้ม ตีหน้าซื่อ ใส่หน้ากากยิ้มแย้มเข้าหา “ทำอะไรเหรอคะ”
“ชั้นรู้ว่าเธอไม่พอใจที่ชั้นทำอะไรโดยไม่ปรึกษาเธอ แต่เธอก็เห็นแล้วว่ามันทำให้เรามาถึงจุดนี้ได้ และมันกำลังไปได้สวย เธอควรจะดีใจนะชมนาด”
“ค่ะ ชมดีใจกับคุณและกับคุณแอ๋วด้วยค่ะ”
สินธรดักคอ “อย่าพาลคุณแอ๋ว..ชั้นจำได้ที่เคยบอกเธอว่าเราสองคนจะดูแลจีแอลเอสด้วยกัน..แต่เธอก็ต้องเข้าใจว่าคุณแอ๋วคือภรรยาตามกฏหมาย และชั้นจำเป็นต้องมีภาพลักษณ์ที่ดีในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ ยังไงคุณแอ๋วก็ต้องอยู่เคียงข้างชั้น..”
“ไม่ใช่ชม” ชมนาดยิ้ม “ค่ะ ชมเข้าใจดีค่ะ..เข้าใจจริงๆ นะคะ..ชมไม่เคยคิดจะเอาตัวเองไปเทียบกับคุณแอ๋วเลย ชมก็แค่เด็กบ้านนอกที่คุณเมตตาให้โอกาสมาทำงาน ช่วยผลักดันให้ได้มาเป็นผู้ช่วยคุณ ชมมีวันนี้เพราะคุณ ชมไม่ลืมหรอกค่ะ”
สินธรยังไม่ไว้ใจในคำพูดชมนาดนัก “คิดได้อย่างที่พูดมันก็ดี..เพราะผมยังต้องการให้คุณช่วยงานในหลายๆ เรื่อง..อย่าทำตัวมีปัญหา! ไม่อย่างนั้น..” เขาชะงักเล็กน้อย จ้องหน้าอีกฝ่าย “ผมจะทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ตัวเองกลับไปอยู่จุดเดิมอีก”
“คุณสินธร..ชมยินดีจะอยู่ตรงไหนก็ได้ บทบาทไหนก็ได้ ตามที่คุณอยากให้ชมอยู่..ดีมั้ยคะ” สินธรจ้องตาชมนาดราวกับจะค้นหาความจริงในคำพูดของหญิงสาว ชมนาดโน้มตัวใกล้ชิด“ชมก็จะไม่ยอมกลับไปอยู่จุดเดิมเหมือนกัน” หญิงสาวทำท่าจะจูบ แล้วก็ชะงักด้วยตัวเอง ยิ้มเยาะ แล้วเดินแยกออกไป
สินธรรู้สึกแปลกๆ กับท่าทีของชมนาด

ปราณนต์กำลังยกชามข้าวต้มออกมา แล้วต้องชะงัก เพราะภัทรินเดินออกมาจากห้องด้านในพอดี ชายหนุ่มมองภัทรินที่เปลี่ยนชุดใหม่แล้ว เป็นเสื้อกล้ามกับผ้าซิ่นแบบชาวเหนือ ดูทะมัดทะแมง น่ารัก ปราณนต์มองอย่างทึ่งๆ
“สวยล่ะสิ” ภัทรินโพสอวด ปราณนต์เบ้ปาก ส่ายหน้า หมั่นไส้ เดินเอาข้าวต้มไปวางที่โต๊ะเล็กๆ ซึ่งเป็นมุมสำหรับทานอาหารเช้า ภัทรินหมั่นไส้ “ทำเป็นไม่ยอมรับความจริง”
อยู่ๆ ป้าชุที่เพิ่งขึ้นจากเรือที่จอดเอาไว้ เดินเข้ามาเห็นภัทริน ถึงกับตื่นเต้น “โอ้มายก๊อดดด เวรี้เวรี่บิวตี้ฟูวปะล้ำปะเหลือ..งามงดเหมือนป้าตอนทีนเอเจอร์เลย” ป้าชุพูดด้วยสำเนียงภาษาอังกฤษสำเนียงเหนือ
“ภัทร นี่ป้าชุ เจ้าของเรือนแพนี้” ปราณนต์แนะนำ
“สวัสดีค่ะ” ภัทรินไหว้ทักทาย
“เทิร์นอะร้าววววสิเจ้า เทิร์นๆๆ” ภัทรินหมุนให้ป้าชุดูตัวไปรอบๆ ป้าชุชื่นชอบภัทรินมาก “ภรรยาของหมอณนต์น่าฮักแต๊ๆ เลยเจ้า” ปราณนต์ตาโตจ้อง ป้าชุอึกอัก
ชายหนุ่มรีบแถ “เอ่อ ป้าคงจะหมายถึง..หมอปราณนต์คนโน้น ไม่ใช่คนนี้ใช่มั้ยครับ เพราะผมคือปราณ พี่ชายหมอปราณนต์”
ป้าชุยืนค้างไปชั่วครู่ “....เจ้า ใช่เจ้า หมายถึงหมอณนต์คนปู้นนน ฮะๆๆ” ป้าชุหุบยิ้ม ปิดสวิชต์ เปลี่ยนเรื่องซะงั้น “เบ็กฟาดเถอะเจ้า”
ภัทรินฟังอย่างงงๆ

ภายในเรือนแพป้าชุกำลังเช็ควิทยุเครื่องเก่าที่วางอยู่ให้ ยกมาตบๆ เพื่อให้เสียงมันดังขึ้น
ระหว่างนั้น ปราณนต์กับภัทรินนั่งกินข้าวต้มอีกด้านหนึ่ง ปราณนต์อธิบายให้ภัทรินฟัง “เมื่อก่อนป้าแกเคยอยู่บนดอยเหมือนคุณนั่นแหละ..ผมรู้จักแกตอนที่ตามแม่ไปออกหน่วยแพทย์อาสา ขึ้นไปอาทิตย์ละหน แกก็ป่วยมาทุกอาทิตย์ เจอกันจนสนิทสนมเหมือนญาติคนนึง..จนป้าแกย้ายตามสามีมาปักหลักอยู่ที่นี่..ก็เลยไม่ค่อยได้ติดต่อกันอีก”
“คุณเคยตามแม่ไปออกหน่วยแพทย์อาสาบนดอยด้วยเหรอ?”
“อ่อ ก็..ก็เคยสิ” ปราณนต์รีบย้ำให้อีกฝ่ายเชื่อใจ ภัทรินจะซักต่อ แต่ป้าชุเดินปรี่กลับมาก่อน พร้อมวิทยุที่ใช้งานได้แล้ว เปิดเพลงยุคสุนทราภรณ์ หรือแนวลูกทุ่งหวานๆ
“วิทยุใช้ได้แล้วนะเจ้า..เรือนนี้มีแต่ตะเกียง บ่มีไฟฟ้านะเจ้า เพื่อความโรแมนติก เพราะเรือนนี้อยู่ลึกสุด ปลายสุด ใครจะมาจะไปต้องบายโบ๊ทโอนลี่..บรรยากาศส่วนตั๊วส่วนตัว เหมาะมากที่คนสองคนจะมาทำบัดสีบัดเถลิงกัน”
“หา!!..ไม่ใช่นะคะป้า หนูกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน” ภัทรินได้ยินรีบปฏิเสธ
“ไม่ต้องเขิน สมัยป้าละอ่อน ก็เรือนนี้แหละ สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกจนได้ไอ้ตัวแสบมาคน คริๆ” ป้าชุหัวเราะคิกคัก อารมณ์ดี
“ไม่ใช่นะคะ” ภัทรินหันมาพาลใส่ปราณนต์ “ไม่คิดจะอธิบายหน่อยเหรอ!”
ชายหนุ่มยิ้ม ลอยหน้าลอยตา ไม่ยี่หระ ภัทรินหน้ามุ่ย หมั่นไส้ เซ็งที่ถูกเข้าใจผิด

ป้าชุเดินนำภัทรินกับปราณนต์มาที่เรือซึ่งจอดผูกไว้ด้านหนึ่งของเรือนแพ เห็นว่าภายในเรือมีของที่ระลึกสำหรับขายนักท่องเที่ยวด้วย พวกหมวก เสื้อยืด แม่เหล็ก กังหันลม ฯลฯ
“ป้าไปก่อนนะเจ้า จะได้เวลารถทัวร์พวกฝรั่งมาแล้ว ต้องรีบเอาซูเวอเนียร์ไปขาย..เธอสองคนจะทำอะไรกันก็ตามสบาย”
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะป้า” ภัทรินพยายามปฏิเสธ
“จ้ะ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ อ้ะ” ป้าชุไม่ต่อล้อต่อเถียงอีก หันไปหยิบกังหันลมในเรือมาส่งให้ “ป้าให้คุณ”
“จริงเหรอคะ..ขอบคุณค่ะป้า”
ป้าชุส่งอีกอันให้ปราณนต์“อันนี้ให้หมอณนต์..คนปู้นนน ฝากคุณไปให้ด้วยนะเจ้า..เป็นของขวัญแต่งงานจากป้า ชีวิตคู่จะได้ไหลลื่นเย็นสบายเหมือนสายลมวันนี้”

อ่านละคร ลมซ่อนรัก ตอนที่ 20/3

ลมซ่อนรัก บทประพันธ์โดย นราเกตต์
ลมซ่อนรัก บทโทรทัศน์โดย ศักดิ์ชัย
ลมซ่อนรัก กำกับการแสดงโดย ชุดาภา จันทเขตต์
ลมซ่อนรัก ผลิตโดย บริษัท ฟีล กู๊ด เอนเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ลมซ่อนรัก ผู้จัดโดย ธิติมา สังขพิทักษ์
ลมซ่อนรัก ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสี ช่อง 3