อ่านละคร ลมซ่อนรัก ตอนอวสาน[2]

อ่านละคร ลมซ่อนรัก ตอนอวสาน[2]

“พี่พสุ..ผมรู้แล้วว่าผลตอบแทนของการทำผิดคิดชั่วมันเป็นยังไง ผมสัญญาว่าจะกลับตัว..พี่พาผมออกไปนะ” สินธรขอร้อง
“ชั้นก็ทำอะไรไม่ได้ ทุกอย่างมันต้องเป็นไปตามกฎหมาย” พสุวัฒน์เอ่ยขึ้นอย่างจนใจ
“ผมไม่น่าเลย ผมไม่น่าเลย ชีวิตผม ครอบครัวผม ต้องพังเพราะผมคนเดียว” สินธรหน้าสลด จำนนต่อชะตากรรม

“คนบางคนคิดว่าการเอารัดเอาเปรียบคนอื่นนิดๆหน่อยๆไม่เป็นไร แต่ถ้าเราชินชากับการทุจริตเล็กๆ น้อยๆ มันก็จะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ กว่าจะรู้ตัวอีกที ความโลภ ความเห็นแก่ตัวมันก็แผ่รากฝังลึกจนยากจะกลับตัวแล้ว..อะไรที่รู้อยู่แก่ใจว่าผิด ไม่ถูกต้อง ต่อให้เรื่องเล็กแค่ไหน ต่อให้ไม่มีใครรู้ จงอย่าทำ” พสุวัฒน์เอ่ยสอนขึ้น สินธรเศร้า เจ็บปวด สำนึกผิดกับสิ่งที่ตนทำลงไป “สินธร อดทนนะ ชั้นจะรอวันที่แกออกมา”



ที่บ้านพสุวัฒน์ เช้าวันใหม่ ปราณนต์วิ่งลงมาจากชั้นบน รีบตรงไปที่โต๊ะทานข้าวทันที ปราณกับพสุวัฒน์นั่งรอทานข้าวเช้าอยู่ก่อนแล้ว
“ขอโทษทีนะครับ เมื่อคืนเคลียร์งานดึกไปหน่อย..เอ้อ พี่ปราณ ผมทำเรื่องเบิกเครื่องมือกับยาส่งไปที่ดอยผาหมอกเพิ่มอีกนะ พี่คงไม่ว่าอะไร ขอบคุณครับ”
“แกเปิดโอกาสให้ใครได้ว่ามั้ยล่ะ” พสุวัฒน์เอ่ยขัดขึ้น
“เอ้าๆๆ อย่าดุสิครับ เดี๋ยวกระทบกระเทือนสมองนะครับ..หรือจะใช้ไม้นี้ให้ผมอยู่กับพ่อต่อ”
“ชั้นไม่รั้งแกไว้หรอก แกมันลูกแม่ แกก็ต้องกลับไปเป็นหมอบนดอยเหมือนแม่แกนั่นแหละ..แค่แกอยู่ดูแลชั้น ช่วยสะสางปัญหาเก่าๆในจีแอลเอสจนเสร็จสิ้น ชั้นก็ขอบใจแล้ว”
“ทานเถอะครับ เดี๋ยวณนต์จะตกเครื่อง” ปราณตัดบท
“ถูกต้องงง” ปราณนต์ตักอาหารให้พ่ออ่ะ “ของโปรดของผม แต่ยกให้พ่อ”
พสุวัฒน์มองปราณนต์ “แล้วจะได้กลับมากินข้าวด้วยกันอีกเมื่อไหร่”
ปราณนต์ชะงัก “อ้าว ไหนว่าเราเข้าใจกันแล้วไง อย่าดราม่าสิครับพ่อ. “
“ชั้นไม่ได้ดราม่า ชั้นถามเฉยๆ”
“แน่ะๆๆ น้ำตามาแล้วนั่นๆๆ..พ่อครับ ถ้าคิดถึงผมก็บินไปพักผ่อนที่โน่นก็ได้ บ้านผมกว้างพอให้พ่อไปอยู่ด้วยเสมอ” ปราณนต์เอ่ยแซว
“ไปตามเมียแกกลับมาอยู่ด้วยให้ได้ก่อนเถอะ” พสุวัฒน์หลุดปากออกมา ปราณนต์สะดุดกึกไปเล็กน้อย
ปราณรีบแก้สถานการณ์ “เอ้า อย่าดราม่า กินๆๆๆ”
แต่แล้วปราณนต์ก็กลับมายิ้มแย้มอีกครั้ง “พ่ออ่ะ จะมาพูดให้คนเจ็บปวดใจทำไม..นี่ถ้าแม่มาเห็นพวกเราทานข้าวพร้อมหน้ากันอย่างนี้ คงจะดีใจมากนะครับพ่อ”
“ไอ้นี่ จะพูดให้ชั้นดราม่าเหมือนกับแกเหรอ..ชั้นไม่ดราม่าหรอกเว้ย” พสุวัฒน์หมั่นไส้ลูกชายคนเล็ก
“แม่คงรอวันนี้มานานนะครับ” ปราณนต์เอ่ยขึ้นอีก ปราณนต์กับพ่อยังแซวกันต่อไป บรรยากาศความสุขของครอบครัวสามคนพ่อลูกกลับมาอีกครั้ง

เวลาต่อมา ที่หน้าบ้านพสุวัฒน์ อัณณานั่งอยู่ที่รถของบริษัท เตรียมจะไปส่งปราณนต์ที่สนามบิน
ปราณนต์กับปราณเดินออกมาหน้าบ้าน
“อัณ ผมขอร้องอัณเรื่องนึง ไม่งั้นผมคงไม่สบายใจ..คือ ผมเป็นห่วงจีแอลเอส กลัวพี่ปราณจะดูแลไม่ไหว ผมฝากอัณดูแลพี่ปราณด้วยนะ”
“อัณก็ช่วยปราณตลอด ไม่เคยทิ้งปราณอยู่แล้ว”
“ผมหมายถึงฝากดูแลหัวใจพี่ปราณด้วย” ปราณนต์ยิ้ม อัณณาอึ้ง
ปราณตะลึงที่ปราณนต์พูดอย่างนี้ออกมา “ณนต์ ชั้นกับอัณเป็นเพื่อนกัน”
“ใช่ๆๆ ผมก็รู้ว่าพี่กับอัณเป็นแค่เพื่อนกัน..ผมก็เลยอยากขอให้อัณทำหน้าที่เพื่อน ช่วยดูแลหัวใจพี่หน่อย พี่ชายผมอกหักรักคุดละมุดลำไยไม่เหลียวแล ผมกลัวพี่ชายผมจะเป็นโรคซึมเศร้า เก็บกด ทำร้ายตัวเอง..โอเคมั้ยอัณ” “
“ณนต์ลืมไปหรือเปล่าว่าอัณก๊อกหักมาเหมือนกัน” อัณณาย้อนขึ้นบ้าง
“พอๆๆ ไปได้แล้วไป” ปราณเอ่ยตัดบทไล่ปราณนต์ขึ้นรถ แต่ปราณนต์ดื้อดึง ยังไม่ยอมขึ้นไป
“จริงด้วย ถ้างั้น” ปราณนต์คว้ามือปราณมา “พี่ปราณก็ต้องทำหน้าที่เพื่อนให้อัณด้วย” ปราณยื้อมือเอาไว้ “ทำไม หรือพี่คิดกับอัณมากกว่าเพื่อน”
“ไม่ได้คิด” ปราณรีบปฏิเสธ
“หรืออัณคิด!” ปราณนต์หันมาถามหญิงสาว
“เปล่า” อัณณารีบส่ายหน้าปฏิเสธ
“นั่นไง ถ้าคิดกันแค่เพื่อนก็ต้องบริสุทธิ์ใจที่จะจับมือกัน” ปราณนต์คว้ามือทั้งคู่มาจับกัน ยิ้มพอใจ “ดูแลกันและกัน เป็นเพื่อนกันจนแก่เฒ่านะ”
อัณณากับปราณทำท่าระอากับความเจ้าเล่ห์ของปราณนต์

ที่ดอยผาหมอก ภายในบริเวณไร่สวนกะกล่ำ ภัทรินกำลังอธิบายคนงานทำงานในไร่กะหล่ำ ถึงลักษณะของกะหล่ำที่ดี ที่ต้องการ การคัดแยก หญิงสาวช่วยคนงานแพ็คกะหล่ำในลังเอาขึ้นรถ เพื่อนำส่งไปขาย รวมถึงสอนภารตีทำบัญชีรายรับรายจ่าย ว่าต้องเอาต้องรายรับลบรายจ่าย แล้วได้ตัวเลขที่เป็นบวก ภารตีตื่นเต้นดีใจที่ตัวเลขกำไรของเดือนนี้มีมากขึ้น
เวลาต่อมา ภัทรินเห็นคนงานคนนึงเก็บกะหล่ำผิดวิธี คือไม่ยอมตัดใบนอกมาด้วย เลยรีบวิ่งเข้าไปหา และสอนว่าต้องตัดเอาใบนอกมาด้วยจะได้เป็นตัวกันกระแทกไม่ให้ข้างในช้ำ คนงานคนนั้นก้มหน้า พยักหน้ารับคำไปอย่างเจียมตัว ภัทรินสอนอย่างมีเมตตาต่อไป
สักพักพวกคนงานมาออกันที่เพิงพักของไร่ ภัทรินถือสมุดบัญชีอยู่กับภารตีที่ยืนรออยู่แล้ว “วันนี้ภัทรมีข่าวดีค่ะ! เดือนนี้ไร่ภารตีขายกะหล่ำได้กำไรมากขึ้น ภัทรก็เลยจะแบ่งเงินมาให้โบนัสกับทุกคนค่ะ”
พวกคนงานดีใจเฮ ตบมือ ร่าเริง มีความสุข
ภารตีเป็นคนแจกซองเงิน“มาเลยจ้า ต่อแถวกันมาเลย”
พวกคนงานต่อแถวรับซองกัน จนกระทั่ง คนงานคนสุดท้ายที่สวมหมวกและมีผ้าโพกปิดหน้าตาเอาไว้ แต่ซองเงินหมดแล้ว
ภารตีเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย งงๆ “อ้าว ทำไมขาด..คนงานเรา12 คน 12 ซอง”
“พี่มาใหม่หรือเปล่าจ๊ะ ภัทรไม่คุ้นเลย ปกติภัทรจำได้หมดทุกคนนะ พี่ชื่ออะไรคะ”
คนงานชายนั้นถอดหมวกและถอดผ้าโพกออกมาทำเอาภัทรินอึ้งไป “ชื่อปราณนต์ครับ” ทุกคนดีใจ จำหมอปราณนต์ได้หมด
“หมอณนต์!!!” ภารตีดีใจ
ปราณนต์ไหว้ภารตีอย่างมีมารยาท “สวัสดีครับน้าภา สวัสดีจ้ะพี่ๆ น้าๆ ทุกคน” เขาหันมาทางภัทริน “ผมมาตามภรรยาผมกลับบ้านครับ”
พวกชาวบ้านคิกคัก ภัทรินวางสมุดบัญชีลง แล้วเดินหนีไปทันที ปราณนต์เหวอ แต่พวกชาวบ้านเชียร์

ภัทรินเดินหนีมาตามทางในไร่กะหล่ำ ปราณนต์เดินตามมาตลอด
“ภัทร..ผมปล่อยให้คุณใช้เวลาจัดการความรู้สึกตัวเองตั้งสองเดือน ความโกรธของคุณจะไม่ลดลงบ้างเลยเหรอ..โกรธผมขนาดนี้ แสดงว่าคุณต้องรักผมมากแน่ๆ”
ภัทรินชะงักกึก หันกลับมา เชิดหน้าอย่างมีทิฐิ “คุณต้องการอะไรจากชั้นคะคุณปราณ”
“ผมอยากให้คุณหายโกรธแล้วก็กลับบ้านเรากัน”
“ชั้นไม่ได้โกรธ ไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณอีก นอกจากรำคาญ..ถ้าคุณจะกรุณา ช่วยออกไปจากไร่ชั้นด้วย”
“ทำไมคุณถึงไม่ฟังเหตุผลผมบ้าง” ปราณนต์ดึงมือหญิงสาวเอาไว้
“อยากพูดใช่มั้ย..เชิญ!” ภัทรินดึงมือออกแรงๆ กอดอก รอฟัง
“ไม่ นี่คุณจะเอาชนะ ไม่ได้จะฟัง”
“ชั้นให้โอกาสคุณแล้วนะ” ภัทรินรีบเดินหนี
“ภัทร..” ปราณนต์จะตามเข้าไปตื๊ออีก
แต่ภัทรินไวกว่า คว้าหัวกะหล่ำที่เก็บแล้วตรงนั้นขึ้นมาเขวี้ยงใส่“ออกไป!!” สีหน้าภัทรินเอาจริง โกรธจริง ปราณนต์ได้แต่ผงะ ถอยออกไป ภัทรินเดินหนีไปอีกทาง

ที่บ้านภารตี ภัทรินกำลังนั่งกินอาหารเย็นอยู่ มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นปราณนต์ยืนรออยู่ด้านนอก แต่ภัทรินกินข้าวต่อไป ไม่สนใจ ภารตียกอาหารอีกชุดออกมา จะเอาออกไปนอกบ้าน
“แม่คะ จะยกไปไหนคะ”
“เอาไปให้หมอณนต์”
ภัทรินเข้ามาหยิบถาดอาหาร“ไม่ต้องเลยค่ะ ให้ภัทรกินดีกว่า”
“ภัทร..ตั้งแต่ลูกกลับมาจากกรุงเทพ ลูกก็ไม่เคยเล่าให้แม่ฟังเลยนะว่าเกิดปัญหาอะไรกับหมอณนต์ แม่ก็ไม่อยากจะเซ้าซี้มาก..แต่ถ้าไม่ไปคุยกันให้เข้าใจ แม่ก็จะออกไปคุยเอง” ภารตีเอ่ยขึ้นจริงจัง ก่อนจะเดินออกไป
“แม่คะ!!” ภัทรินร้องเรียกคนเป็นแม่ด้วยความขัดใจ
ปราณนต์นั่งรออยู่ด้านนอกบ้าน อากาศเริ่มเย็น และมีลมพัดแรงมา ปราณนต์เริ่มหนาว มองท้องฟ้า เริ่มเห็นเป็นสีแดงๆ ภารตีเดินออกมา
“กลับบ้านเถอะค่ะคุณหมอ อากาศเย็นแล้ว เดี๋ยวจะเป็นไข้ไปเสียก่อน”
“แต่..ผมอยากคุยกับภัทรให้เข้าใจก่อนครับ”
ภัทรินเดินตามออกมา ยืนห่างๆ ไม่เข้ามาร่วมในวงสนทนา
“มันไม่คุยด้วยก็ไม่ต้องไปตื๊อหรอกค่ะ..เดี๋ยวน้าขับรถไปส่ง น้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นที่กรุงเทพฯ หมอไปทำผิดอะไรมากมาย ยัยภัทรถึงได้โกรธมากขนาดนี้”
“อ้าว นี่น้าภายังไม่ทราบเหรอครับ”
ภัทรินรีบมาห้ามภารตี “แม่!! ถ้าเขาจะกลับก็ให้เขากลับไปเองสิ”
“ฝนกำลังจะตก จะให้หมอเดินฝ่าฝนไปงั้นเหรอ” ภารตีหันมาดุลูกสาว
ปราณนต์รู้ว่าภาภรตีเปิดโอกาส รีบรับมุขทันที “ผมไปรอที่รถนะครับ..แล้วผมจะเล่าทุกอย่างให้น้าภาฟังเอง..ทุกเรื่อง ทุกความลับ ตั้งแต่วันแรกที่ผมเจอภัทรเลยครับ”
“นี่!!! นายจะใช้ให้คนแก่ขับรถไปส่งตัวเองเหรอ..ใจร้ายใจดำมาก”
“หรือลูกจะไป?” ภารตีย้อนถาม
“แม่!!”
ภารตียื่นกุญแจรถให้ ภัทรินได้แต่ฮึดฮัดหงุดหงิด ไม่อยากไป

เวลาต่อมา ภัทรินขับรถมาส่งปราณนต์ แต่แล้วก็จอดเอาดื้อๆ กลางถนน
“ลงไปได้” ภัทรินเอ่ยไล่
“หา..อีกนิดเดียวก็จะถึงบ้านเราแล้ว ไปให้ถึงไม่ได้เหรอ”
“ชั้นจะไม่กลับไปเหยียบบ้านนายอีก ลงไป”
“ผมจะไม่เดินฝ่าฝนไปแน่..คุณต้องไปส่งผมถึงบ้าน ไม่งั้นผมจะนั่งอยู่อย่างนี้” ปราณนต์กอดอก ทำตัวดื้อ ท้าทาย ภัทรินหมั่นไส้ ดับเครื่องรถ ถอดกุญแจรถ แล้วเดินลงจากรถไปทันที “อ้าว นี่ คุณจะไปไหน” ปราณนต์รีบลงจากรถรีบตามภัทรินที่เดินจ้ำไม่หยุด
“ยอมเดินตากฝนกลับบ้าน แต่ไม่ยอมไปบ้านของเรางั้นเหรอ” ปราณนต์เข้ามากระชากแขน “ภัทริน!”
ภัทรินกระชากมือออก “ไม่ต้องมายุ่งกับชั้น!” ทำให้กุญแจรถที่อยู่ในมือของหหญิงสาวหลุดกระเด็นออกไปไกล ตกหายไปในข้างทาง “เฮ้ย” ภัทรินตกใจจะเข้าไปค้นหากุญแจรถ แต่ทันใดนั้น ฝนก็ตกลงมา
“ฝนมาแล้ว ไปหลบฝนก่อน” ปราณนต์เอ่ยเตือนอย่างเป็นห่วง
“ไม่ต้องมายุ่ง” ภัทรินตวาด ผลักอีกฝ่ายออกไป จะเดินหนี อยู่ๆ ลมก็พัดแรง มีฝุ่นปลิวเข้าตา “โอ๊ะ” ภัทรินชะงัก หลับตา ปราณนต์เลยอาศัยจังหวะนั้น อุ้มภัทรินขึ้นมาเลย “นายจะทำอะไร”

ปราณนต์อุ้มภัทรินเข้ามาในบ้านของตน วางภัทรินลง หญิงสาวทำท่าจะกลับไปทันที แต่ปราณนต์คว้าแขนเอาไว้ได้ก่อน
“ถ้าคุณออกไป ผมจะบอกน้าภาว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตคุณบ้าง” ภัทรินหันขวับมาจ้องหน้าด้วยความโกรธเจ็บปวด “ทำไมล่ะภัทร..คุณไม่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับชีวิตคุณให้น้าภาฟัง ก็เพราะคุณไม่อยากให้แม่คุณเสียใจใช่มั้ย..ทำไมคุณไม่คิดบ้างว่าที่ผมทำกับคุณก็เพราะผมไม่อยากให้คุณเสียใจเหมือนกัน”
“ไม่เหมือน นายรวมหัวกันจัดฉากหลอกชั้น นายจงใจทำให้ชั้นเข้าใจผิด ทำให้ชั้นเสียใจ เจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำอีก”

อ่านละคร ลมซ่อนรัก ตอนอวสาน[2]

ลมซ่อนรัก บทประพันธ์โดย นราเกตต์
ลมซ่อนรัก บทโทรทัศน์โดย ศักดิ์ชัย
ลมซ่อนรัก กำกับการแสดงโดย ชุดาภา จันทเขตต์
ลมซ่อนรัก ผลิตโดย บริษัท ฟีล กู๊ด เอนเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ลมซ่อนรัก ผู้จัดโดย ธิติมา สังขพิทักษ์
ลมซ่อนรัก ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสี ช่อง 3