อ่านละครเรื่อง สุสานคนเป็น ตอนที่ 2/5 วันที่ 16 เม.ย. 57

อ่านละครเรื่อง สุสานคนเป็น ตอนที่ 2/5 วันที่ 16 เม.ย. 57

บรรจงตะลึง ชีพวิ่งมาพอดี ชี้หน้าไปที่บรรจง “ไอ้เวก ไอ้พร จับมัน...”
วิเวกกับสมพรวิ่งออกมาจากในบ้าน บรรจงวิ่งหนีอย่างเร็ว รสสุคนธ์ร้องไห้โฮๆ กุมแก้ม หวานตะลึง ชีพเข้ามาหา
“รส เป็นอะไร มันทำอะไรเธอหรือเปล่า”
“มันตบรส...มันจะปล้นบ้านนี้ มันคิดว่าไม่มีคนอยู่ ฮือๆ”

รสสุคนธ์กอดชีพแน่นร้องไห้ หวานตะลึงนิ่งไป ไม่คิดว่ารสสุคนธ์จะเหลี่ยมจัด
หวานพึมพำเบาๆ “นังนี่...ร้ายนัก...”
ลั่นทม อุษา ธารินทร์และหมอผันออกมาจากข้างใน


“เกิดอะไรขึ้นครับ...”
“คุณตำรวจขา...ขโมยมันบุกเข้ามาในบ้าน มันทำร้ายร่างกายรสค่ะ...”
ธารินทร์มองหา รสสุคนธ์ชี้มือไปที่ประตู “มันวิ่งหนีไปแล้วค่ะ ฮือๆๆ”
รสสุคนธ์กอดชีพร้องไห้โฮๆ ชีพกอดรสสุคนธ์ปลอบใจ หมอผัน ต้อยติ่งและอุษามอง ธารินทร์จะออกไปตาม อุษาส่ายหน้า “ตามมันไม่ทันหรอกค่ะ...ปล่อยไปเถอะ...”
“ผมจะจับตัวให้ได้ คนร้ายต้องรู้จักใครในที่นี้ ไม่งั้นคงไม่กล้าอุกอาจเข้ามาแบบนี้หรอก อาจมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ได้”
“เข้าใจผิดยังไง...” รสสุคนธ์ร้อนตัว
“ก็แบบมีความขัดแย้งส่วนตัวกับใครบางคนน่ะสิครับ...ผมจะวิทยุให้สะกัดจับ แม่หวาน คนร้ายรูปร่างยังไง แต่งตัวยังไง”
“อุ๊ย อิฉันก็ไม่ทันมองหรอกค่ะ ปล่อยมันไปเถอะ นึกว่าเป็นคราวซวยของอิฉันกับนังรสมันเถอะค่ะ..”
“อย่าให้ความซวยมันมาตกแก่บ้านนี้เลย...”
ทุกคนหันไปก็เห็นลั่นทมยืนอยู่ รสสุคนธ์นิ่ง ลืมความเศร้าโศกที่แสร้งทำจนหมด มองหน้าลั่นทมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ
“เข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ พระฉันเสร็จแล้ว เดี๋ยวจะได้กรวดน้ำ จะได้หายซวยกันซะที...”
ลั่นทมเข้าไป ชีพตามไปติดๆ อุษา หมอผันและต้อยติ่งตามไป
“ตกลงคุณรสสุคนธ์กับแม่หวานไม่เอาเรื่องใช่มั้ยครับ...”
“เอ้อ ไม่ๆๆ เจ้าค่ะ...ปล่อยมันไปเถอะค่ะ...”
ธารินทร์เข้าไปในบ้าน
“นังรส...เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ ทำไมถึงทำยังงี้...”
“ถ้าฉันไม่ทำยังงี้ คุณชีพก็ต้องรู้สิว่าฉันเคยมีแฟนมาก่อน...”
“อ้อ กลัวคุณค่าตัวเองจะหาย...หรือว่ากลัวราคาตกกันล่ะ”
หวานเดินเข้าไปในบ้าน รสสุคนธ์มองตามไม่พอใจ

ที่ห้องจัดเลี้ยงพระ ลั่นทมกับชีพจับดอกไม้ช่อเดียวกันถวายพระ รสสุคนธ์เข้ามาเห็นพอดี ส่งสายตาริษยาอย่างเห็นได้ชัด ลั่นทมกับชีพช่วยกันถวายพระองค์ต่อไป ส่วนองค์ท้ายๆ นั้นหมอผัน ธารินทร์ อุษา ช่วยกันถวายพระจนครบ จากนั้นพระให้พร ชีพกับลั่นทมช่วยกันกรวดน้ำ โดยจับที่กรวดน้ำร่วมกัน ธารินทร์กับอุษา หมอผัน และต้อยติ่งจับที่กรวดน้ำร่วมกันอยู่อีกมุม หวานนั่งพนมมืออยู่มุมหนึ่ง รสสุคนธ์มองแล้วสะบัดหน้าออกไป

รสสุคนธ์เดินมาในครัว ได้ยินเสียงจากในครัวดังมาก่อน รสสุคนธ์แอบฟัง เสียงสวาทดังขึ้น
“แหม...ข้าเสียดาย มัวช่วยงานอยู่ข้างใน เลยไม่ได้เห็นอะไรเด็ดๆ ไหนเอ็งเล่าสิวะไอ้เวกไอ้พร เอ็งจับมันได้หรือเปล่า”
วิเวกกับสมพรช่วยกันเล่า สวาท ยาใจและจิ้มลิ้มนิ่งฟังตั้งใจ
“เกือบจับไม่ได้แน่ะ มันจะปีนรั้วหนี”
“ใช่ๆ ฉันก็เลยรวบขามันดึงลงมาเลย มันร้องขอชีวิตยังกะควายกลัวถูกเชือด”

วิเวกเล่าถึงตอนที่บรรจงถูกดึงลงมา ล้มกันไปทั้งสมพรและบรรจง วิเวกกระชากคอเสื้อของบรรจงมาถาม “คิดจะมาขโมยอะไรวะ ไอ้หน้าอ่อน ไม่รู้เหรอว่าบ้านนี้น่ะบ้านใคร...”
บรรจงส่ายหน้าจะร้องไห้“ผมไม่ได้เป็นขโมย ผมจะมาหาเมียผม...”
“เมีย...ใครวะ”
“นังยาใจหรือนังจิ้มลิ้ม...นังสองตัวนี่มีผัวซ่อนไว้ก็ไม่ยอมบอก”
“เปล่าจ้ะ เมียผมชื่อรสสุคนธ์...”
สมพรกับวิเวกอ้าปากค้าง “เอ็งพูดจริงเหรอวะ...”
“จริงจ้ะน้า...ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันรับปากว่าจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว...”
เสียงหัวเราะของสวาท ยาใจและจิ้มลิ้มดังขึ้นมาจากในครัว
“มันน่าให้คุณรินทร์จับได้ จะได้กระชากหน้ากากหลานแม่หวานออกมาให้สะเทือนซางไปเลย...คนบ้านนี้จะได้ตาสว่างเสียทีว่านังนี่มาจากนรกขุมไหน...”
รสสุคนธ์หน้าเครียดจัด ตัดสินใจเดินเข้าไปข้างใน ทุกคนอ้าปากตะลึง
“คุณผู้หญิงให้ฉันมาตามพวกแกไปเก็บของ...”
รสสุคนธ์เดินกลับไป ทุกคนนิ่งเงียบไป
“คงไม่ได้ยินหรอก...”
“ไม่ได้ยินค่อยๆ น่ะสิ...นังยา...”
ที่ห้องโถงบ้านลั่นทม หวานถือขันที่กรวดน้ำเสร็จแล้วจะมาเทหน้าบ้าน รสสุคนธ์หันมาเห็น
“น้าหวาน ฉันไปเทให้เอง”
“เอ็งรู้เรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ โบราณเขาว่าให้บอกแม่พระธรณีให้ท่านรับรู้ด้วยนะ...”
“ตอนอยู่บ้าน ฉันทำให้แม่ประจำ...แม่จะกรวดน้ำหลังใส่บาตรทุกเช้า”
“เออ งั้นก็เอาไป...”
หวานส่งขันน้ำเล็กๆ เป็นน้ำจากการกรวดน้ำให้รสสุคนธ์

มุมซักล้าง สวาทก้มๆ เงยๆ อยู่ที่ก๊อกน้ำ รสสุคนธ์เข้ามาแล้วเทน้ำราดศีรษะของสวาท
“ว้าย..นังรส...น้ำอะไรเนี่ย...”
รสสุคนธ์หัวเราะ“กรวดน้ำให้แล้วก็ไปที่ชอบๆ นะ...มาจากนรกขุมไหนก็กลับไปอยู่ขุมนั้น...”
“หมายความว่ายังไง...”
“ก็หมายความอย่างที่พูดแหละ...”
สวาทเท้าเอวจะเอาเรื่อง แต่รสสุคนธ์เชิดหน้าท้าทาย สวาทเลยหันไปทางอื่น รสสุคนธ์ยิ้มมุมปากสะใจ แล้วเดินไป

ที่หน้าบ้าน ลั่นทมยืนส่งหมอผันกับต้อยติ่งขึ้นรถไป ธารินทร์ยกมือไหว้ลั่นทม ซึ่งยืนอยู่กับอุษา
“ขอบใจนะจ๊ะธารินทร์ นี่ถ้าไม่ได้หมอผันมาช่วยก็คงทำอะไรไม่ค่อยถูกหรอก”
ลั่นทมหันไปหาชีพ “จริงมั้ยคะชีพ...”
“ก็ไม่น่ายากนะ...ทำโรงงานยังยากกว่าเป็นพันเป็นหมื่นเท่า”
ธารินทร์รู้ว่าถูกเหน็บเลยขอลากลับ ธารินทร์ยกมือไหว้ลั่นทมกับชีพ
“จ้ะ ขอบใจนะคุณรินทร์...”
ธารินทร์เดินไปที่ตำแหน่งคนขับ อุษายืนส่งคนรักอยู่เงียบๆ รถของธารินทร์เคลื่อนออกไป
ชีพตรงมาหาลั่นทม “คุณเหนื่อยมากหรือเปล่าทม...”
“นิดหน่อยค่ะ แต่ก็มีความสุขนะคะ...”
“ถ้าคุณสบายใจ ผมก็พลอยมีความสุขไปด้วย...เข้าบ้านเถอะจ้ะ ลมแรง เดี๋ยวจะไม่สบายไป ษาพาคุณน้าเข้าไปพักผ่อนในบ้าน แล้วบอกแม่หวานให้หาน้ำส้มหวานๆ ชื่นใจมาให้คุณน้าลั่นทมด้วย...
“ค่ะ คุณน้าเข้าไปในบ้านกันเถอะค่ะ...”
อุษาคอยดูแลลั่นทมจนก้าวเข้าไปในบ้าน
รสสุคนธ์ออกมาจากมุมที่ซ่อน “รสน้อยใจจังค่ะคุณชีพ”
ชีพเหลียวมองไปรอบๆ “เรื่องอะไร...”
“ก็ตอนที่คุณกับเมียคุณถวายดอกไม้ร่วมกันน่ะ มันบาดใจรสจังเลย...สะเทือนใจ รสอยากทำบุญกับคุณบ้าง...วันหลังเราไปทำบุญกันสองคนนะคะ...”
“ได้สิจ๊ะ...”
รสสุคนธ์ยิ้มดีใจ สบตาชีพ “รสจะรอวันนั้นค่ะ”

มุมหนึ่งในที่ลับตา สวาทและหวานเผชิญหน้ากัน
“แม่หวานน่ะจะรู้ดีว่าหลานแม่หวานกำลังทำอะไรอยู่ ถ้าแม่หวานไม่จัดการให้เรียบร้อย พวกฉันนี่แหละจะบอกคุณผู้หญิงเอง...”
หวานตกใจ ส่ายหน้า
“อย่านะแม่หวาด...ฉันขอร้อง...อย่าทำให้คุณผู้หญิงไม่สบายใจเลย เดี๋ยวจะ...”
สวาทพูดสวนมาทันที “ตอนนี้ยังไม่ได้ทำอีกเหรอ...แม่หวานน่ะแหละที่ทำให้คุณผู้หญิงไม่สบายใจ...บอกไว้ก่อนนะ ฉันจะไม่ยอมให้หลานสาวแม่หวานมาวางอำนาจเป็นเจ้าเป็นนายของพวกฉันได้หรอก...รีบจัดการด้วย”

ในห้องหวาน รสสุคนธ์แหวใส่หวาน
“ก็เพราะน้าหวานน่ะสิ ยุ่งไม่เข้าเรื่อง พาไอ้บรรจงมาทำไม คนในบ้านนี้มันก็เลยดูถูกฉันได้...”
“ก็ถ้าแกทำตัวดีๆ มีเหรอที่คนจะดูถูกได้”
“ฉันไม่ดีตรงไหน...ฉันทำทุกอย่างก็เพื่อน้าหวานนะ”
“อย่าเอาข้าไปเกี่ยวข้องด้วย...”
รสจ้องหน้าหวาน แล้วหัวเราะออกมา หวานเองยังตกใจ
“สายไปแล้วน้าหวาน...ตอนนี้ใครๆ เขาก็ว่าน้าหวานร่วมมือกันฉัน...ทางที่ดี น้าหวานก็ร่วมมือกับฉันจริงๆ ซะไม่ดีกว่ารึ”
“ข้าไม่ยอมทำบาปร่วมกับเอ็งหรอกนังรส...”
“ก็ตามใจ...เอาเป็นว่าเรื่องไหนน้าหวานไม่อยากยุ่ง น้าหวานอยู่เฉยๆ ก็แล้วกัน”
ในห้องนอนของลั่นทม ชีพดึงตัวลั่นทมมากอดแล้วจูบ ลั่นทมปัดป้องไว้
“อย่าค่ะชีพ...ทมกลัวว่าโรคเก่ามันจะกลับมาอีก”
ชีพปล่อยลั่นทม หงุดหงิด
“เบื่อ...เมื่อไหร่นะไอ้โรคบ้าๆ ของคุณนี่มันจะหายซะที...”
ชีพหงุดหงิดเดินออกไป
“คุณจะไปไหนคะชีพ...”
“เดินเล่นที่สนาม ไม่ต้องตามมาหรอก เดี๋ยวโรคบ้าๆ ของคุณ มันจะกำเริบ...”
ชีพเดินออกไป ลั่นทมทรุดตัวลงนั่งที่ขอบเตียง น้ำตาไหลพรากทันที

ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน ชีพยืนรับลมอยู่ สีหน้าเครียด แล้วก็ตกใจเมื่อมีใครมากอดทางด้านหลัง
“คิดถึงจัง...ทำไมคะ เมียไม่ให้อยู่ในห้องเหรอ...”
ชีพหันมาเห็นรสสุคนธ์ก็จูบ รสสุคนธ์บ่ายเบี่ยง ผลักออก
“อย่าค่ะ...”
“จะทรมานฉันไปถึงไหนรสสุคนธ์...”
“เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าค่ะ...อีกอย่างรสกำลังกลุ้ม...”
“อะไร...”
“ก็อีพวกในบ้านนี้สิคะ มันจับตาดูเราสองคน มันพยายามกีดกันรส รสกลัวว่าจะไม่ได้อยู่กับคุณ รสรักคุณค่ะ”
ชีพรวบตัวรสสุคนธ์มากอด กระซิบเบาๆ
“ไม่ต้องห่วง...ผมจะไม่ยอมให้พวกเขามาทำอะไรรสได้...”
รสสุคนธ์ยิ้มแล้วก็โผเข้ากอดกับชีพ
ลั่นทมมองออกมาจากหน้าต่างห้อง น้ำตาไหลพราก ปล่อยมือที่จับม่านให้ปิดเหมือนเดิม
“ชีพ...เธอทรยศฉัน...ฮือๆๆ”
ลั่นทมโผเผไปที่เตียง หายใจเริ่มไม่คล่อง ลั่นทมคว้ายาดมมาสูดแรงๆ แล้วผ่อนลมหายใจยาวๆ ตาปรือ ลั่นทมบอกตัวเองเบาๆ
“อย่าเป็นอะไรนะ...อย่าเป็นอะไร...อย่าเป็นอะไร”
น้ำเสียงของลั่นทมแผ่วเบาลงเรื่อยๆ

ที่สนามหน้าบ้าน ชีพคลอเคลียอยู่กับรสสุคนธ์ อุษาออกมาจากในบ้านเห็นเข้าพอดี ยืนตะลึง แล้วรีบเข้าไปในบ้าน อุษายืนมือกุมหน้าอก ตกใจ หน้าซีด หวานเดินมาพอดี
“คุณอุษาเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“ปละ...เปล่า...แม่หวานมาตามหาหลานสาวเหรอ...อยู่...อยู่ที่สนามแน่ะ...”
อุษาเดินไปทันที หวานนิ่งคิดแล้วได้สติ รีบเดินออกไป หวานตะลึง เห็นรสสุคนธ์อยู่ในอ้อมกอดของชีพ
“นังรส...นังรส...”

อ่านละครเรื่อง สุสานคนเป็น ตอนที่ 2/5 วันที่ 16 เม.ย. 57

ละครเรื่อง สุสานคนเป็นบท ประพันธ์โดย ประดิษฐ์ กัลย์จาฤก
ละครเรื่อง สุสานคนเป็น บทโทรทัศน์โดย ภาคย์รพี
ละครเรื่อง สุสานคนเป็นกำกับการแสดงโดย อนุวัฒน์ ถนอมรอด
ละครเรื่อง สุสานคนเป็น ละครแนว ดราม่า รี้ลับ อาถรรพ์ ตื่นเต้น
ละครเรื่อง สุสานคนเป็นผลิตโดย บริษัท กันตนา มูฟวี่ ทาวน์ (2002) จำกัด
ละครเรื่อง สุสานคนเป็นออกอากาศ ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ เร็วๆ นี้