อ่านละครเรื่อง สุสานคนเป็น ตอนที่ 2/2 วันที่ 15 เม.ย. 57

อ่านละครเรื่อง สุสานคนเป็น ตอนที่ 2/2 วันที่ 15 เม.ย. 57

“หวาน...ให้คุณน้าพักผ่อนนะ อย่าเพิ่งชวนคุยอะไร...”
“อุษา น้าไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย...ยังไม่ขึ้นห้องหรอก อยากนั่งเล่นข้างล่างนี่ก่อน...”
“ค่ะ คุณผู้หญิง”

หวานพาลั่นทมเข้าไปในบ้าน ยาใจกับจิ้มลิ้มออกมาจากมุมหนึ่ง มองดูธารินทร์ที่เปิดประตูให้อุษานั่ง แล้วก็ทำตาวิบวับ จนรถออกไป
“ถ้าเราได้แฟนแบบนี้สักคนก็ดีนะ”
“ใช่...ในฝันเลยล่ะ..”
สวาทหันมาค้อน “รีบไปหาน้ำให้คุณผู้หญิงดื่มสิ...ชักช้าอยู่นั่นแหละ...”
ฉ่ำเดินเข้ามา “แม่หวาดจ๊ะ คุณผู้หญิงกลับมาแล้วเหรอ”
“เออ มัวไปแอบนอนอยู่หลังบ้านสิ เลยไม่รู้”
“ก็นิดหน่อย...ว่าไปก็ดีใจนะที่คุณผู้หญิงออกจากบ้านได้ แบบนี้แสดงว่าต่อไปคุณผู้หญิงก็หายแล้ว...”
“ใช่ ขืนไม่หายสิ อีนังหน้ายางมะตอยจะได้มาเสวยสุขแทน”
“นังหวาด...ระวังปากแกบ้าง...”
“ข้าพูดตามที่ข้าเห็น ข้าเชื่อตามที่ข้าคิดโว้ยไอ้ฉ่ำ...”
ที่มุมประตู เห็นหวานยืนนิ่งอยู่ มือล้วงไปในกระเป๋าเสื้อกำถุงสร้อยข้อมือแน่น แล้วเดินไปทางหนึ่ง ฉ่ำกับสวาทมองหน้ากัน
“คงไม่ได้ยินที่เราพูดเนาะ...”
ในครัว หวานเข้ามา เห็นน้ำส้มคั้นสดๆ กับน้ำเปล่าสะอาดใส่แก้วไว้เรียบร้อย หวานทำท่าจะยกไป
“ลิ้มยกให้ดีกว่าค่ะ...”
“วันนี้ดูแม่หวานไม่ค่อยสบาย เหมือนคนอดนอนมาทั้งคืน...ห้องใหม่มีแอร์เย็นฉ่ำ ทำไมถึงนอนไม่หลับ”
“เรื่องของข้า...”
ยาใจหน้าเสียไป จิ้มลิ้มยกถาดเครื่องดื่มไปแล้ว หวานเดินตามไป

ยาใจวางเครื่องดื่มให้ลั่นทม หวานตามเข้ามา
“คุณผู้หญิงไปไหว้พระมาหรือเจ้าคะ”
“ใช่...ไปไหว้พระแล้วสบายใจจนไม่อยากรับรู้เรื่องอะไรที่ทำให้เป็นทุกข์...”
หวานก้มหน้า ไม่กล้าบอกเรื่องสร้อยข้อมือ
“ดีแล้วล่ะค่ะ...ถ้าคุณผู้หญิงจะขึ้นไปพักผ่อนข้างบนก็บอกอิฉันนะคะ...”
“ขอนั่งเล่นตรงนี้ก่อน ถ้าจะขึ้นข้างบนจะบอก แม่หวานมีอะไรก็ไปทำเถอะ ทั้งสองคนนั่นแหละ...”
“เจ้าค่ะ...”
หวานกับยาใจออกมา ลั่นทมหยิบนิตยสารที่วางอยู่ใกล้ๆ มาพลิกดู

บรืเวณหน้าบ้านลั่นทม วิเวกยืนแต่งกิ่งไม้อยู่ หวานยืนอยู่มุมหน้าบ้านสีหน้ากังวล หยิบถุงใส่สร้อยข้อมือมาดู
“จะทำให้คุณผู้หญิงไม่สบายใจ...เฮ้อ...”
หวานเก็บเข้าในกระเป๋า
“ห่ออะไรน่ะแม่หวาน...สีแดงๆ “
“จะรู้ไปทำไมวะไอ้เวก...”
สวาทกับฉ่ำเข้ามา
“ถ้าตาฉันไม่บอด...ฉันว่าถุงใส่ทอง...นี่แม่หวานมีเงินซื้อทองใส่กับเขาเหรอ” ฉ่ำสงสัย
“ไหน ขอดูหน่อยสิแม่หวาน” สวาทอยากรู้บ้าง
“ นั่นสิ ขอฉันดูด้วย...” ยาใจเสริม
หวานปัดป้อง “นังพวกนี้...ยุ่งอะไรกับข้าวะ...”
ยาใจจะล้วงกระเป๋าเสื้อ หวานตีมือ ยาใจสะดุ้ง “แหม ขอดูแค่นี้ก็ไม่ได้”
“หลานสาวซื้อให้เหรอ...เงินเดือนเดือนแรกก็ได้ทองใส่ เดือนต่อไปแม่หวานจะได้อะไรอีกเนี่ย...คงไม่ได้บ้านใหญ่โต แบบหลังนี้หรอกนะ...”
สวาทปิดปากหัวเราะ หวานอึ้งไป เงื้อมือขู่
“ปากเสียนังหวาด...ข้าทำงานมาทั้งชีวิต ข้าก็ต้องมีสมบัติติดตัวบ้างสิวะ...ไม่ใช่อย่างพวกเอ็ง มีเงินเท่าไหร่ก็ใช้หมด” หวานเดินไป ท่าทางหงุดหงิด ทุกคนจ๋อยไป
มุมเงียบๆ นอกบ้านลั่นทม หวานกุมถุงใส่สร้อยข้อมือ สีหน้ากลุ้มใจมาก มองแล้วก็ได้แต่ถอนใจ
“ไม่เป็นไร ไว้ถ้าคุณผู้หญิงสบายใจขึ้นแล้ว เราก็จะคืนให้ท่าน แล้วก็จะเฉดหัวนังหลานเนรคุณออกไปจากชีวิต”

รสสุคนธ์กับชีพนั่งทานอาหารกันอยู่ในร้าน
“เป็นไง ย้ายงานขึ้นมาข้างบนแล้ว ดีขึ้นมั้ย”
“ก็ดีค่ะ ไม่ต้องอุดอู้อยู่กับพวกคนงานข้างล่าง...คุณชีพมาทานข้าวกับรสยังงี้ ไม่กลัวคนมาเห็นเหรอ”
“ถึงเห็นแล้วใครจะกล้า...”
รสสุคนธ์ยิ้มอย่างผู้มีชัย ก้มหน้าทานอาหารต่อ อดซ่อนยิ้มไว้ไม่ได้

ที่นอกร้านอาหาร ชีพขับรถออกไปโดยมีรสสุคนธ์นั่งอยู่ข้างๆ อุษากับธารินทร์มองตามอยู่
“ษาสงสารคุณน้าลั่นทม...”
ธารินทร์จับมืออุษาบีบปลอบใจ “อย่าเพิ่งคิดมากสิ...อาจไม่เลวร้ายอย่างที่เราคิดก็ได้”
“ท้าทายกันยังงี้ ออกมากินข้าวด้วยกัน ไม่กลัวคนนินทา ยังจะไม่น่ากลัวอีกเหรอคะรินทร์...”
ธารินทร์พูดยิ้มๆ “ยังไงก็ดีกว่าเขามาตื๊อษาให้ออกมากับเขาไม่ใช่เหรอ...”
“โธ่ รินทร์ ษาเป็นห่วงคุณน้าลั่นทมมากกว่าค่ะ...”
“อย่าเพิ่งบอกให้ท่านทราบสิครับ...วันที่ท่านแข็งแรงแล้ว ผมว่าท่านไม่ปล่อยให้ผู้หญิงที่ชื่อรสสุคนธ์ลอยนวลอยู่ได้หรอก ...”
ธารินทร์เดินนำเข้าไปในร้านอาหาร อุษาตามเข้าไป

หน้าห้องทำงานของชีพ รสสุคนธ์เดินตามชีพเข้ามา ชีพเดินผ่านไป รสสุคนธ์นั่งลงที่โต๊ะทำงานของตน ไม่มีใครกล้าสบตาด้วย สายสมรถือแฟ้มมาที่โต๊ะของรสสุคนธ์
“ช่วยหาข้อมูลบริษัทนี้ให้หน่อย เขาจะมาเจรจาซื้อสินค้าเรา...”
“หน้าที่ของฉันด้วยเหรอคะคุณสายสมร”
“หน้าที่ของคนที่ต้องทำงานในตำแหน่งคุณค่ะ ถ้าคุณอยู่ในตำแหน่งนี้ คุณก็ต้องทำ...”
รสสุคนธ์มองหน้า ลุกขึ้นยืน “กล้าสั่งฉันเหรอ...”
“ดิฉันเป็นหัวหน้างานคุณนี่คะ...”
รสสุคนธ์กระชากแฟ้มมาจากมือของสายสมร ทำท่าจะเดินไปที่ห้องของชีพ อุษาเดินเข้ามา“มีหน้าที่อะไรก็ต้องทำตามหน้าที่สิรสสุคนธ์...”
“แต่...”
“ไม่มีแต่...อย่าลืมนะว่าเธอยังไม่ผ่านประเมินงาน...ถ้าไม่ผ่านก็หมายความว่าต้องออกจากที่นี่ไป เพราะ ฉะนั้นทำตามที่คุณสายสมรสั่งดีกว่า”
รสสุคนธ์กระแทกตัวลงนั่ง วางแฟ้มลงอย่างแรง พนักงานพากันเงยหน้ามอง
“มองอะไร ไม่เคยเห็นคนเหรอไง”
ที่ห้องของหวาน รสสุคนธ์จับสร้อยข้อมือของตนใส่ข้อมือหวาน
“มีปัญหามากนักใช่มั้ย...ใส่ไว้...อย่าถอดให้ฉันเห็นนะ...”
“นังรส เอ็งก็รู้ว่าข้ารับใช้คุณผู้หญิง ถ้าท่านถาม เอ็งจะให้ข้าตอบว่ายังไง...”
“ก็ตอบไปสิว่าผัวมันซื้อให้ฉัน...”
“สารเลว...แย่งผัวเขาแล้วยังจะกล้าทำร้ายจิตใจเขาอีก”
รสหัวเราะสะใจ “ช่วยสงเคราะห์ทีเถอะ เอาให้มันตายวันนี้พรุ่งนี้ไปเลย...ช็อค ตายคาเตียงคืนนี้เลยยิ่งดี...น้าจะได้สบายไงล่ะ ร่วมมือกับฉันมั้ย...”
รสสุคนธ์ถามท้าทาย หวานถอยหลังกรูด ไม่คิดว่าหลานสาวตัวเองจะโหดร้ายยังงี้
“ข้าทำไม่ได้หรอก...เอ็งไม่รู้จักคำว่าบาปบุญคุณโทษหรือไงหานังรส”
“อุ๊ย ทำไมฉันจะไม่รู้จัก นี่ไง” รสสุคนธ์ชี้ที่สร้อยข้อมือ
“หน้าตามันเป็นยังงี้แหละ...ทำงานงกๆ จนแก่จะเข้าโลง ทองเท่าหนวดกุ้งยังไม่มีใส่กับเขาสักเส้น...นึกว่าเป็นผลของความดีที่น้าหวานทำมาทั้งชีวิตก็แล้วกัน...”
“ข้าหมายถึงว่าเอ็งไม่รู้จักบุญคุณของคุณผู้หญิงบ้างเลยเหรอ...บ้านที่ซุกหัวนอน...ข้าวที่กินเข้าไปทุกมื้อ เอ็งคิดถึงบุญคุณของท่านบ้างสิ...”
“บุญคุณ” รสสุคนธ์หัวเราะหยัน “ถามหน่อยเถอะ ถ้าฉันไม่ขอห้องให้น้าได้มาอยู่ห้องกว้างๆ ยังงี้ น้าจะมีวาสนาได้อยู่เหรอ...คงตายอยู่ในรูหนูนั้นแหละ...นังคุณผู้หญิงมันไม่เคยเห็นความสำคัญของน้าน่ะสิ ตาสว่างได้แล้วน้าหวาน อย่าโง่”
“ตาข้าไม่สว่าง แต่ใจข้าสว่างโว้ยนังรส...สักวันกรรมมันจะตามสนองเอ็ง...”
หวานออกไป รสสุคนธ์ยักไหล่

หวานทำครัวอยู่ เห็นทองอร่ามอยู่ที่ข้อมือ สวาท ยาใจและจิ้มลิ้มต่างมองไปที่ข้อมือของหวานเป็นตาเดียว
“ตกลงทองในถุงที่พี่ฉ่ำถามถึงน่ะ คือสร้อยข้อมือเส้นนี้ใช่มะ สวยจัง...”
ยาใจกับจิ้มลิ้มพยักพเยิดกัน
“ไม่ใช่ของข้าหรอก ของแม่นังรสน่ะ แม่มันตาย มันก็เลยเอามาให้ข้า...”
“ ยังใหม่อยู่เลยนะ..”
“ลายสวยด้วย...”
“สงสัยซื้อได้ไม่นานก็ตาย...โธ่เอ๊ย วาสนาหนอวาสนา ซื้อ แล้วไม่ได้ใส่ แม่หวานก็เลยได้รับมรดกแทน”
จิ้มลิ้มกับยาใจรู้ว่าสวาทกัดหวาน ก็แอบกันอมยิ้ม หวานนิ่งอึ้งไป ไม่ตอบ ถอดสร้อยใส่ถุง ทุกคนพากันมองดูเงียบๆ
ชีพกับลั่นทมทานอาหารกันอยู่ สวาทคอยรับใช้ หวานยืนเมียงมองอยู่มุมหนึ่ง ทำท่าจะเข้าไปหา ชีพมองไปที่หวาน สะดุดตากับถุงใส่สร้อยข้อมือ
“อ้าว หวาน...”
หวานทำท่าจะเข้ามา ชีพมองไปดวงตาดุๆ เป็นเชิงปราม
“สวาทรินน้ำให้ที...”
“เจ้าค่ะ...”
“หายหน้าไปเลย ไม่สบายหรือเปล่า ถ้าไม่สบายก็ไปนอนพักเถอะ ทางนี้ให้สวาทดูแลได้...”
หวานพยักหน้าซึมๆ “เจ้าค่ะ คุณผู้หญิง” หวานกำถุงใส่ทองแน่นเดินไป

หวานเข้ามาในห้อง ในมือยังกำถุงทองแน่น รสสุคนธ์ตรงมากระชากไป
“ถ้ามากเรื่องนักก็เอามานี้...เก็บมันไว้ในห้องนี้แหละ”
รสขว้างไปที่เตียง มองหวานอย่างชิงชัง วางอำนาจ
“อย่าให้ฉันรู้นะว่าน้าหวานคิดจะเอาไปคืนนังลั่นทม...เพราะนี่ไม่ใช่ของของมัน เป็นของฉัน...”
“แต่ผัวเขาซื้อให้เอ็ง...อย่าลืม เงินผัวก็เงินเขา...”
“เหรอ...งั้นก็รู้ไว้ว่าต่อไปมันจะเป็นของฉันทั้งหมด..”
“นังรส...นี่เอ็งคิดอะไรอยู่...”
“ถึงขนาดนี้แล้ว น้ายังจะสงสัยอีกเหรอ...ร่วมมือกับฉันดีกว่า”
หวานแทบจะกรีดร้องออกมา รสสุคนธ์หัวเราะหยัน หวานตบหน้ารสสุคนธ์หนึ่งที รสสุคนธ์หน้าหันไป
“พอจะทำให้เอ็งมีสติรู้คิดขึ้นมาบ้างมั้ยนังรส...”
“น้าหวานตบหน้าฉันหลายทีแล้วนะ..เชื่อฉันเถอะ...ไม่ว่าน้าจะร่วมมือกับฉันหรือไม่ ทุกคนในบ้านนี้ก็ต้องคิดว่าเป็นแผนของน้าหวานทั้งนั้น...”
“ข้าไม่เกี่ยวข้องกับความชั่วช้าระยำอัปรีย์ของเอ็ง...”
“แต่น้าเป็นคนเอาฉันมาอยู่ในบ้านหลังนี้...น้าจะห้ามไม่ให้พวกเขาคิดอย่างที่ฉันพูดได้เหรอ”
หวานยืนนิ่ง น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“กรรมเวรแต่ปางไหนวะ ถึงได้ส่งผีนรกจกเปรตอย่างเอ็งมาให้ข้า...”

ในห้องโถงยามดึก เสียงนาฬิกาดังกังวาน มีเสียงร้องไห้สะอื้นเบาๆ ดังมา หวานเดินมองหาต้นเสียง
“ใครมาร้องไห้แถวนี้...”
ไฟดับพึ่บ หวานตกใจ เห็นร่างใครบางคนกลิ้งลงบันไดมากองแทบเท้าหวาน
“กรี๊ด...”
หวานผงะหนี ถอยหลังกรูด หลังปะทะกับเก้าอี้หรือเฟอร์นิเจอร์บางอย่าง สะดุดล้มลง ดวงตาของหวานยังจับจ้องไปที่ร่างที่ตกบันได ซึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่ หวานตัวสั่น หน้าซีด ริมฝีปากสั่นระริก ค่อยๆ เขยิบไป ใช้มือสั่นๆ แตะที่ร่างของคนตกบันได พลิกใบหน้าให้หันมา เป็นยายแก่หน้าเหี่ยวย่น แสยะยิ้ม น่ากลัว
“ว้าย..” หวานผลักร่างนั้นออกห่างอย่างแรง ผีเรือนหันขวับมา กลายร่างเป็นลั่นทม
ลั่นทมมองหวานตากร้าว “เอาของข้าคืนมา..” ลั่นทมคว้าหมับเข้าที่ข้อมือของหวาน
หวานตกใจ สะดุ้ง หวานเสียงสั่น “คุณผู้หญิง..”
ลั่นทมพูดเสียงเน้นๆ แต่กังวาน “เอาของข้าคืนมา...”
“ฮือ..ไม่ค่ะ หวานกลัว...”
หวานวิ่งหนีไป ใบหน้าของลั่นทมตาเบิกโพลง ตากร้าว น่ากลัว

หวานลืมตาตื่น หอบหายใจเหนื่อย ตามองที่เพดานกวาดตาไปทั่วห้อง จนเห็นรสสุคนธ์นอนอยู่ข้างตน
“นังรส...นังรส...” หวานจะปลุกรส แต่แล้วก็ต้องผงะ ผีเรือนหญิงชรานั่งทับขา หวานขยับตัวไม่ได้ หวานพยายามกรีดร้องสุดเสียงแต่ไม่มีเสียงลอดออกมา
“เอาของข้าคืนมา...” แล้วผีเรือนกลายร่างเป็นลั่นทม จ้องหน้าหวาน น่ากลัว
“สมบัติของข้าทุกชิ้นจะต้องเป็นของข้าตลอดไป ถ้าข้าไม่ให้ ใครก็ไม่มีสิทธิ์...ฮ่า ฮ่า ”
เสียงหัวเราะลั่นทมดังกึกก้อง จากนั้นใบหน้าลั่นทมเปลี่ยนเป็นหญิงชรา
หวานค่อยๆ ยกมือสั่นๆ พนมมือไหว้ น้ำตาไหลอาบแก้ม กลัวสุดชีวิต
“คุณผู้หญิงขา...อิฉันจะให้นังรสมันคืนให้คุณผู้หญิงนะคะ..”
ร่างหญิงชราวูบหายไป หวานหายใจโล่งอก หันมาปลุกรสสุคนธ์จริงจัง
“นังรส นังรส ตื่นสิ นังรส”
รสสุคนธ์รู้สึกตัว นั่ง แล้วพูดเสียงดังกึ่งตวาด
“โอ๊ย ดึกขนาดนี้แล้วจะปลุกฉันขึ้นมาทำไม...ไม่ได้ว่างงานนะน้าหวาน...ไม่รู้อะไรเลยเหรอเนี่ย..”
“นังรส ข้าโดนผีหลอก ข้ามั่นใจว่าต้องเป็นผีบ้านผีเรือนที่คุ้มครองคุณผู้หญิงอยู่”
“เหลวไหลน่าน้าหวาน แล้วมันจะมาหลอกน้าหวานทำไม แล้วทำไมมันต้องหลอกน้าหวานคนเดียว ไม่ไปหลอกคนอื่นล่ะ”
หวานสวนคำไม่ยอมให้รสสุคนธ์ได้พูดต่อ
“เอาสร้อยข้อมือไปคืนคุณผู้หญิงซะ แล้วก็สารภาพไปว่าเอ็งไปทำระยำตำบอนอะไรมา...”
รสสุคนธ์โกรธจัด “อะไรน้าหวาน ถึงกับเอาไปฝันเลยเหรอ...เรื่องมากจริงๆ น้าหวานอยากคืนก็คืนไปคนเดียวเถอะ รำคาญ”
รสสุคนธ์ล้มตัวลงนอน หวานมองไปรอบๆ สายตาหวาดๆ หวานล้มตัวลงนอน เห็นผีเรือนสูงจนติดเพดาน ก้มหน้าลงมาที่หวาน แสยะยิ้ม หัวเราะหึๆ ในลำคอ หวานดิ้นรน แต่ไม่ถนัด ดิ้นอยู่บนเตียง รสสุคนธ์ผวาตื่นอีกที
“อะไรอีกล่ะ”
“ผี..ผีหลอก...”
“น้าหวาน แก่จนป่านนี้แล้ว ยังกลัวผีเป็นเด็กๆ ไปได้ ถามจริงไม่ทุเรศตัวเองบ้างเหรอ...”
รสสุคนธ์จ้องหน้าหวาน หวานจ้องหน้าตอบ แต่ก็เป็นฝ่ายสลดเอง

ตอนเช้า รสสุคนธ์เข้ามาในห้องครัว เห็นขนมปังปิ้งทาเนยไว้เรียบร้อยก็จะยกขึ้นกัด สวาทรีบห้าม
“อย่านะ...”
รสสุคนธ์ชะงัก
“นั่น ของคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชาย”
“ฉันจะรีบไปทำงาน แผ่นเดียวเอง”
“ถ้าอยากกินก็ปิ้งเองสิ ให้รู้ซะบ้างว่านั่นของเจ้านาย ไม่ใช่ของขี้ข้า...”
รสสุคนธ์ทิ้งขนมปังอย่างไม่ใส่ใจ จ้องหน้าสวาท แล้วก็จ้องหน้ายาใจกับจิ้มลิ้ม รสสุคนธ์ออกไป
“ชัดเจน...”
“อะไรวะนังลิ้ม”

อ่านละครเรื่อง สุสานคนเป็น ตอนที่ 2/2 วันที่ 15 เม.ย. 57

ละครเรื่อง สุสานคนเป็นบท ประพันธ์โดย ประดิษฐ์ กัลย์จาฤก
ละครเรื่อง สุสานคนเป็น บทโทรทัศน์โดย ภาคย์รพี
ละครเรื่อง สุสานคนเป็นกำกับการแสดงโดย อนุวัฒน์ ถนอมรอด
ละครเรื่อง สุสานคนเป็น ละครแนว ดราม่า รี้ลับ อาถรรพ์ ตื่นเต้น
ละครเรื่อง สุสานคนเป็นผลิตโดย บริษัท กันตนา มูฟวี่ ทาวน์ (2002) จำกัด
ละครเรื่อง สุสานคนเป็นออกอากาศ ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ เร็วๆ นี้